จากประสบการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นในศูนย์นักเรียนหญิง เขตกำปงทบ ประเทศเขมร
“ผีเข้า”มีเด็กนักเรียนคนหนึ่ง อายุ 17 ปี เพิ่งเข้ามาอยู่ในศูนย์ คืนหนึ่ง เวลา 10 โมงกว่าๆ เด็กเข้านอนแล้ว ซิสเตอร์ก็เข้านอนแล้ว และกำลังจะหลับพอดี ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ เสียงดัง ซ.รีบออกไปดู เห็นเด็กนอนร้องไห้ ดึงผมตัวเอง ดิ้นทุรนทุราย มีเพื่อนๆช่วยกันจับเขาไว้ ซ.เรียกและถามเขา ว่าเป็นอะไร เขาไม่ลืมตา ไม่ตอบรับอะไรทั้งสิ้น ได้แต่ร้องไห้ ตัวก็ไม่ร้อน ก่อนนอนเขาก็ดูทีวีด้วยกันธรรมดา ซ.พยายามคิด ว่าจะทำอย่างไรดี ทันทีนึกขึ้นมาได้ว่า น่าจะเอากางเขนมา เผื่อว่า ถ้ามีวิญญาณเข้าร่างเขาจริงๆเขาจะมีอาการอย่างไร ซ.เดินกลับไปเอากางเขนเชือกห้อยคอที่เคยสวม และสายประคำที่เคยสวด เอามาไห้เขาได้สัมผัส และสวมใส่คอให้เขา และบอกว่า นี่พระเยซูนะ ให้พระเยซูอยู่กับเธอนะ พอสวมให้เขาแล้ว เขาก็นิ่ง สงบ และนอนหลับเหมือนคนนอนหลับธรรมดา ซ.รู้สึกแน่ใจเลยว่า มีวิญญาณที่มาเข้าร่างของเด็ก
กลังจากนั้นให้เด็กๆเข้านอน และ ซ. ก็ไปนอน พร้อมกับความรู้สึกประหลาดใจ ตกใจที่ได้เห็นเหตุการณ์เช่นนี้ ได้สวดสายประคำต่อ อีกจนนอนหลับไป รุ่งเช้าเห็นเขานอนหลับก็ให้เขานอนต่อไปอีก แต่พอสายๆมีอาการเหมือนเดิม พวกเด็กและเยาวชนพากันสวดภาวนาให้ เขาก็สงบลงบ้าง บางทีก็น้ำตาไหล ทำท่าทางเหมือนมีความทุกข์ ถามเขาว่าเป้นอย่างไร ไม่ตอบและไม่ลืมตา เวลานั้นมีพี่สาวของเขาและแม่มาเยี่ยม ปกติเขาจะเป็นคนร่าเริง พูดเก่ง แต่เวลานั้นเขาไม่พูด ไม่ตอบรับใดๆทั้งสิ้น ปิดตาตลอดเวลา ซ.จับมือเขาไว้ เขาน้ำตาไหลตลอดเวลา สักครู่หนึ่ง ซ.ออกไปเพื่อทานอาหารเช้า และให้พี่สาวเขามานั่งใกล้ๆแทน พี่สาวเขาบอกว่า เวลา ซ. ออกไป เขาชี้ให้เอารูปกางเขนออกไปหลายครั้ง พี่สาวเขาไม่เอาออกให้ และบอก ซ. ด้วยว่า อย่าเอาออกเป็นเวลานานตั้งแต่เช้า จนถึง 10 โมง เขาเป็นอย่างนี้
ซ.ได้เริ่มพูดกับเขาอีกว่า พระเยซูอยู่กับเธอนะ พร้อมทั้งหยิบกางเขนที่หน้าอกของเขา นำมาวางที่หน้าของเขา แนบกับแก้ม เขาหยุดร้องไห้ ซ.พูดกับเขาอีกว่า เธอเป็นวิญญาณที่มาเข้าในร่างน้องคนนี้ใช่ไหม สงสารน้องเขาเถิด เขาเป็นลูกของพระเยซู ร่างนี้เป็นของเขา ให้เขาได้มีอิสระนะ ซ. จะภาวนาอุทิศให้ วิญญาณ ของเธอได้มีความสุขด้วย มือของ ซ. จับกางเขนแนบกับแก้มของเด็กตลอดเวลา สักครู่ใหญ่ๆ เขาพูดเสียงดังออกมาว่า “ออกไปเดี๋ยวนี้แล้ว” ซ.ก็ตอบว่า “ดีมาก”ขอบใจ หลังจากนั้น เด็กลืมตาขึ้น เหมือนกับพึ่งตื่นนอน ท่าทาง งงๆ พี่สาวของเขาและ ซ. รู้สึกดีใจ ยิ้มให้เขา ถามเขาว่า หิวไหม จะทานอะไรไหม? เขาตอบว่า ไม่ล่ะ เขามองดูเสื้อผ้าของตนเอง และขอไปอาบน้ำก่อน ซ.ถามเขาว่า เป็นอย่างไร เขาไม่รู้อะไรทั้งสิ้น ถามว่าแม่และพี่มารู้ไหม เขาบอกว่า ไม่รู้มาเมื่อไหร่ และต่อว่าเพื่อนของเขา ทำไมไม่ปลุกเขาด้วย เพื่อนๆเขาก็หัวเราะ
นี่เป็นประสบการณ์หนึ่ง ที่ เขย่า ความเชื่อของ ซ. และบรรดาเด็กๆในศูนย์ ทุกคน ทำให้ทุกคนเกรงกลัวพระเจ้า และหมั่นสวดภาวนามากขึ้น อีกทั้งทำให้เด็กที่ยังไม่รู้จักพระเจ้า เป็นการเขย่า-กระตุ้น ถึงความเชื่อ ความไว้ใจ และความรัก ของพระเจ้าที่มีต่อทุกคนในศูนย์ด้วย