บทความของคุณพ่ออาดรีอาโน เปโลซิน

พระเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ตอนที่ 9

พระเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระเป็นเจ้า 9

เรื่องราวของคุณเดวิด

เด วิดเป็นชายหนุ่มที่มีอายุ 48 ปี เดวิดเป็นชาวอิหร่าน อาศัยอยู่ในประเทศมานานกว่า 20 ปีแล้วในฐานะผู้อพยพลี้ภัยคนหนึ่งของสหประชาชาติ เมื่อ 12 ปีที่แล้วคุณเดวิดได้มาที่บ้านของคณะปีเมที่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อขอความช่วยเหลือ ในระหว่างนั้นก็ยังมีผู้อพยพลี้ภัยจำนวนหลายชาติทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นจากประเทศปาเลสไตน์ อิรัก อัฟกานิสถาน คองโก กานา ซิเอร่าลีออน และอีกหลายๆประเทศที่มาขอความช่วยเหลือจากคณะปีเมที่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เดวิดเป็นชายหนุ่มที่มีร่างกายใหญ่โตกำยำบึกบึน ข้าพเจ้าได้ขอให้เดวิดช่วยเล่าประวัติส่วนตัวของเขาให้ข้าพเจ้าฟัง เดวิดเล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่า เดวิดเกิดมาจากครอบครัวนายทหาร พ่อของเดวิดเป็นนายทหารชั้นสูงยศระดับนายพล และเดวิดเองก็ได้จบการศึกษาในโรงเรียนเตรียมทหาร เขาเป็นชายหนุ่มมุสลิมที่มีความเลื่อมใสศรัทธา เอาจริงเอาจังและกระตือรือร้นในศาสนาอิสลามของเขามาก นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยความเคียดแค้นและเกลียดชังต่อคริสตศาสนาอีกด้วย เขาเคยถูกสอนมาว่า “ถ้าเขาจับหรือสัมผัสกับสุนัข เขาจะต้องล้างมือเขาให้สะอาดถึง 3 ครั้ง และถ้าเขาสัมผัสหรือติดต่อกับคริสตชน เขาจะต้องล้างมือเขาให้สะอาดถึง 6 ครั้ง” และเรื่องอื่นๆอีกอีกมากมายที่แสดงให้เห็นถึงการดูถูกเหยีดหยามและไม่ถูกกัน ระหว่างผู้นับถือศาสนาของทั้ง 2 ศาสนา คือ ศาสนาคริสต์และศาสนาอิสลาม เพราะฉะนั้น ความเกลียดชังและการแก้แค้นต่างๆระหว่าง 2 ศาสนานี้เขาจึงได้รับการสั่งสอนและสั่งสมมาตลอดเวลา ที่สุด เขาได้เข้าร่วมในสงครามการต่อสู้กันระหว่างอิรักและอิหร่าน และเขาก็ได้รับบาดแผลและบาดเจ็บอย่างสาหัสจากลูกกระสุนปืนและอาวุธทางเคมี เขาถูกรีบนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลอย่างรวดเร็วที่ประเทศเยอรมันและสุดท้าย เขาก็รอดชีวิต ต่อมาเดวิดได้ถูกส่งตัวไปที่ประเทศเลบานอนด้วยหน้าที่ที่พิเศษ นั่นคือ การไปแลกเปลี่ยนตัวประกันหรือนักโทษระหว่างศาสนาคริสต์และศาสนาอิสลาม เดวิดเกิดมีคำถามขึ้นมาในใจเขาทันทีเกี่ยวกับความหมายของหน้าที่ที่พิเศษที่ เขากำลังกระทำอยู่นี้ นั่นคือ ในขณะที่เขากำลังนำตัวประกันหรือนักโทษของศาสนาคริสต์ คือ ชายชราคนหนึ่งและหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังตั้งครรภ์ เขารู้สึกเมตตาสงสารกับเด็กสาวศาสนาคริสต์คนนี้ที่กำลังตั้งครรภ์ และเพราะเห็นแก่ความเมตตาสงสารที่เดวิดมีต่อเด็กสาวศาสนาคริสต์คนนี้ เดวิดไม่จับคริสตชนคนใดคนหนึ่งมาเป็นตัวประกันหรือมาเป็นนักโทษอีกได้เลย สุดท้ายเขาจึงได้ถูกนำตัวไปสอบสวนจากหน่วยราชการลับของอิหร่านในโรงแรมแห่ง หนึ่ง ซึ่งเป็นที่ที่ทำให้เขาได้พบกับแม่พระ เขาถูกเอาผ้าปิดหน้าปิดตาและถูกนำตัวไปยังสถานที่แห่งหนึ่งเป็นเวลายาวนาน นอกจากนี้เขายังถูกทรมานและทำให้เจ็บปวดอย่างแสนสาหัสด้วยวิธีการหลายๆอย่าง จนกระทั่งเขาคิดที่จะฆ่าตัวตายและพร้อมกันนี้ที่ข้อมือของเขาก็เกิดเป็นบาด แผลยาวด้วย ที่สุดเดวิดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ในขณะที่เดวิดไม่รู้สึกตัวและไม่มีสติอยู่นั้น เขาเห็นผู้ชายคนหนึ่งสวมเสื้อผ้าสีขาวปรากฎตัวมาอยู่ต่อหน้าเขาและพูดกับเขา ว่า “เราช่วยท่าน เพราะท่านไม่ได้ฆ่าและทำร้ายพี่น้องของเรา”

ต่อ มาพ่อของเดวิดได้จัดเตรียมทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อที่จะนำเดวิดออกจากโรงพยาบาล ทั้งทางรถ ทางเรือและทางอากาศ โดยได้เตรียมตั๋วเครื่องบินให้กับเดวิดเพื่อที่จะเดินทางไปที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย เดวิดได้ออกจากโรงแรมพร้อมด้วยบาดแผลที่ข้อมือที่ยังมีเลือดไหลอยู่ตลอดเวลา และได้เดินไปตามถนนหนทาง จนกระทั่งเดวิดเดินไปถึงหน้าโบสถ์ของคณะพระมหาไถ่แห่งหนึ่ง เดวิดได้เข้าไปในโบสถ์แห่งนั้นและมองเห็นรูปปั้นใหญ่โตรูปหนึ่งซึ่งเป็นรูป ของ “พระเยซูเจ้าองค์พระมหาไถ่” และในโบสถ์แห่งนี้เองที่เดวิดได้ยินคำพูดประโยคเดิมที่ว่า “เราช่วยท่าน เพราะท่านไม่ได้ฆ่าและทำร้ายพี่น้องของเรา”

เดวิดจึงคิดขึ้นในใจทันทีว่า “ผมจะต้องรู้จักผู้ชายคนนี้ให้ได้ว่าเขาเป็นใคร?” ทันทีทันใดนั้นเองเดวิดก็มองหาพระคัมภีร์ภาษาปาเซ (Parse Language) ซึ่งคุณพ่อคณะมหาไถ่ท่านหนึ่งได้นำเอามาให้ท่าน ต่อมาเดวิดก็ได้มีโอกาสไปร่วมพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณทุกๆวันและได้รับศีลมหา สนิทเหมือนกับที่คริสตชนคนอื่นๆรับ เดวิดได้อ่านพระคัมภีร์ทุกวันและเข้าใจว่าคัมภีร์อัลกุระอ่านของศาสนาอิสลาม เป็นเพียงแค่ชิ้นส่วนหนึ่งในพระคัมภีร์ของศาสนาคริสต์ ซึ่งไม่มีพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ในนั้น เดวิดได้รับความประทับใจและชื่นชมในชีวิตขององค์พระเยซู คริสตเจ้าเป็นอย่างมาก ผู้ซึ่งประทานอภัยและยกบาปผิดให้กับมนุษย์ทุกคน เป็นต้น คนบาป และยอมรับเอาความผิดบาปของมนุษย์ทุกคนด้วยตัวพระองค์เอง นั่นคือ การยอมสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อไถ่บาปเรามนุษย์ทุกคน

ข้าพเจ้า บอกกับเดวิดว่า เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องและเหมาะสมที่เดวิดไปรับศีลมหาสนิทก่อนที่จะรับศีล ล้างบาป ข้าพเจ้าได้เริ่มสอนคำสอนให้กับเดวิดเพื่อเตรียมตัวรับศีลล้างบาป ที่สุดในคืนวันสมโภชปัสกาปีต่อมาเดวิดได้รับศีลล้างบาปที่วัดนักบัญมาร์โก จังหวัดปทุมธานี

เด วิดได้ทำงานเป็นเวลาหลายปีทีเดียวในฐานะอาสาสมัครของหน่วยงานคาทอลิก สงเคราะห์ผู้ประสบภัยและลี้ภัย(โคเออร์) โดยมีพระสังฆราช ยอแซฟ พิบูลย์ วิสิฐนนทชัย ประมุขสังฆมณฑลนครสวรรค์ เป็นผู้รับผิดชอบหน่วยงานโคเออร์นี้อยู่ ปีนี้เองเดวิดได้เริ่มเรียนหลักสูตรวิชาเทวศาสตร์สำหรับคริสตชนผู้มีความ สนใจที่วิทยาลัยแสงธรรม อ.สามพราน จ.นครปฐม โดยโปรแกรมของการเรียนวิชาเทวศาสตร์นี้มีจำนวนเวลาทั้งหมด 4 ปี และเดวิดได้บอกกับข้าพเจ้าว่า

“ผม ต้องการที่จะรู้จักพระเป็นเจ้ามากขึ้น และ ผมต้องการที่จะอุทิศชีวิตทั้งหมดของผมเพื่อพระองค์ ผู้ซึ่งได้มอบอุทิศชีวิตทั้งครบของพระเองค์เองให้กับผมด้วย พระองค์ทรงช่วยผมให้รอดพ้นจากตัวผมเอง จากการที่ผมอยากจะฆ่าตัวตาย พระองค์ทรงช่วยเหลือผมจากชาวอิหร่านผู้มีความเฉลียวฉลาดรอบรู้ ผู้ซึ่งต้องการที่จะฆ่าผม พระองค์ทรงช่วยเหลือผมให้รอดพ้นจากความตายฝ่ายจิต เพราะความบาปผิดมากมายของผม ทุกสิ่งทุกอย่างทั้งหมดนี้ผมขอยกถวายแด่พระเป็นเจ้า เพื่อพระเกียรติมงคลอันยิ่งใหญ่ของพระองค์จะคงอยู่ตลอดไป”

admin@admin.com

About Author

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

บทความของคุณพ่ออาดรีอาโน เปโลซิน

พระเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ตอนที่ 1

พระเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ตอนที่ 1 “เรารักท่าน พร้อมกับบาปของท่าน”       ในปี ค.ศ. 1997 เมื่อข้าพเจ้าอายุได้ 31 ปี และบวชเป็นพระสงฆ์มาได้ประมาณ 5 ปี คุณพ่อวิญญาณรักษ์ของข้าพเจ้าที่มหาวิทยาลัยแมรี่เกลด ในบ้านเณรของคณะปีเม (คณะธรรมฑูตแห่งกรุงมิลาน ประเทศอิตาลี่) ที่เมืองดิทรอยท์
บทความของคุณพ่ออาดรีอาโน เปโลซิน

พระเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ตอนที่ 2

พระเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระเป็นเจ้า ตอนที่ 2 ในเดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ. 1978 คุณพ่ออธิการคณะปีเมของข้าพเจ้าได้ขอให้ข้าพเจ้าไปเป็นธรรมฑูตหรือมิชชันนา รี่ผู้แพร่ธรรมที่ประเทศไทย ข้าพเจ้าได้เรียนภาษาไทยและได้มีประสบการณ์หนึ่งในช่วงเวลา 3 เดือนที่ข้าพเจ้าไปพักอาศัยอยู่ในวัดกับพระของศาสนาพุทธ(ครูบา) ที่วัดอุโมงค์ จังหวัดเชียงใหม่ ในปี ค.ศ. 1980 พระสังฆราช โรเบิร์ต รัตน์