PMS ร่วมพันธกิจไปด้วยกัน สู่ปีปิติมหาการุณย์

เดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาที่ผมใช้เวลาเตรียมการเตรียมตัวหลายๆเรื่อง ก่อนการเดินทางประชุมใหญ่ประจำปีของ ผู้อำนวยการระดับชาติขององค์กรเพื่อการประกาศข่าวดี(National director of Pontifical Mission Soceity) ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันที่บ้านเณรใหญ่ในกัมพูชา เป็นเดือนแห่งการสอบ น้องเณรก็ต้องเตรียมตัวสอบกันน่าดู ผมก็สอนและสอบน้องเณรจบพอดี… ถ้าพี่น้องสังเกตและก้าวไปพร้อมกับพระศาสนจักร เราจะเห็นว่า มักมีการเฉลิมฉลองบ่อยๆ ไม่ว่าจะฉลองวัด หรือฉลองตามวันในพิธีกรรมต่างๆ ซึ่งผลทางจิตใจจะออกมาได้ดีแค่ไหน ก็ขึ้นกับการตระเตรียมเป็นอย่างมาก

ปีหน้าพระศาสนจักรเราจะมีการฉลอง ปีปิติมหาการุณย์ ซึ่งจะวนมาครบรอบทุก 25 ปี(ยกเว้นพระสันตะปาปาจะประกาศบางปีเป็นพิเศษ) หลายคนคงมีประสบการณ์เมื่อปี 2000 ซึ่งเป็นปีจาริกแห่งความเชื่ออีกครั้งหนึ่ง และเราต้องเตรียมตัววางแผนอย่างดี เพื่อการฉลองในปีหน้านี้ จะได้เกิดผลดีฝ่ายจิตใจและเป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน… หัวข้อที่พระสันตะ ปาปาได้ให้เราไตร่ตรองคือ “ปีแห่งความหวัง” ซึ่งสะท้อนถึงสภาพการณ์และเป็นการให้กำลังใจเรา ท่ามกลางความไม่แน่นอนต่างๆในโลกนี้

กลับมาที่การประชุมผู้อำนวยการระดับชาติ ของสมณองค์กรเพื่อการแพร่ธรรมหรือ PMS ประจำปีนี้ ได้จัดในระหว่างวันที่ 24-31 พฤษภาคม 2024 ผมกับ คพ.ไตรรงค์ มุลตรี PMS จากไทย ได้เจอกันอีกพร้อมกับเพื่อนๆที่มาจากทุกทวีป วันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันถัดมา เราได้พบกับพระสันตะปาปา ซึ่งทางผู้จัดเตรียม ได้เตรียมพวกเรา เพื่อจะได้พบพระองค์อย่างดี ปีนี้บิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์มีพระภักตร์ยิ้มแย้มแจ่มใส (เพราะปีที่แล้วเราพบก่อนพระองค์ผ่าตัดหนึ่งวัน) พระองค์ให้แนวทางสำหรับงานเราสามอย่างคือ ความเป็นหนึ่งเดียวกัน(Communion) ความคิดสร้างสรรค์(Creativity) การยืนหยัดมั่นคง (Tenacity) ที่เหลือกลับไป เราก็ต้องหาทางปรับใช้กันในบริบทของแต่ละประเทศ

ผมให้เครดิตกับทีมงานที่เตรียมการประชุมในปีนี้มากครับ เพราะทุกช่วงของตารางเวลา ได้ถูกจัดเตรียม ให้เกี่ยวข้องกับเรื่องของพวกเราอย่างดี คือการรายงานการทำงานของแต่ละสมณองค์กร โดยเฉพาะเรื่องบัญชีที่นำเสนอและอธิบายหน้าที่การงานของเรา คือการกระตุ้นพระศาสนจักรท้องถิ่น ให้เป็นพยานถึงพระวรสาร PMS เป็นเครื่องมือและเครื่องหมายของความร่วมมือกันในงานธรรมทูต เพื่อพระศาสนจักรจะได้แบ่งปันทรัพยากรแก่กันและกัน ผ่านทางเงินทานวันอาทิตย์แพร่ธรรม จากประเทศต่างๆ ทั่วโลก และกระจายออกไป ในประเทศมิสซังต่างๆ ในเนื้องานประกาศข่าวดี เช่น งานก่อสร้าง งานคำสอน งานอบรมจิตตารมณ์ธรรมทูต ฯลฯ

เรื่องที่น่าสนใจ 2 เรื่องในปีนี้คือ เรื่องแรกคือ Domus Missionalis หรือหอพักนักศึกษาจากประเทศมิสซังเรื่องนี้ผมต้องขอบคุณพระศาสนจักรสากล ผ่านทางสมณองค์กรเพื่อพันธกิจแพร่ธรรม(PMS) คือ ครั้งหนึ่งที่ผมได้มาศึกษาต่อปริญญาโทที่โรม ก็ได้รับทุนจากPMSนี้เหมือนกัน พระศาสนจักรท้องถิ่นหลายแห่งในประเทศมิสซัง ได้ขอทุนนี้ เพื่อส่งพระสงฆ์ นักบวช และครูคำสอนพื้นเมืองของพวกเขามาเรียน เพื่อจะได้นำความรู้กลับไปรับใช้พระศาสนจักรท้องถิ่นต่อ พวกเขาจะพักใน Domus missionalis เหล่านี้ ซึ่งเรามักเรียกกันคุ้นปากในที่ต่างๆ เช่น บ้านเณรอูร์บาโน(พระคาร์ดินัลก็เคยมาเรียนที่นี่ด้วย), หอ น.เปโตร, หอ น.เปาโล(ผมเคยอยู่หอนี้ครับ), หอ น.ยอแซฟ และที่กัสเตลกอนดอลโฟ ค่าใช้จ่ายต่างๆเหล่านี้ มาจากเงินทานวันอาทิตย์แพร่ธรรมจากทั่วโลกที่ปันส่วนมา และเราพบความท้าทายว่า ปีนี้เงินทานทั่วโลกลดลงกว่าปีที่แล้ว ทำให้พวกเราหลายคนเป็นห่วง แต่คุณพ่อเตเดอุส(ผู้อำนวยการPOPF) บอกพวกเราว่า ให้มั่เรานใจในพระ และขอให้เราทำหน้าที่ของเราอย่างดีที่สุด

เรื่องที่สอง คือ การพัฒนาสมณองค์กรของเราเอง เพื่อให้บทบาทหน้าที่ชัดเจนยิ่งขึ้น เนื่องจากพวกเราถูกนำเสนอจากพระศาสนจักรท้องถิ่นและถูกแต่งตั้งจากสันตะสำนัก เพื่อทำงานช่วยพระสันตะปาปาในเรื่องการส่งเสริมงานธรรมทูตในท้องถิ่นทั่วโลก องค์กรของเราจึงต้องปรับปรุงระเบียบข้อกำหนดขององค์กร(Statute) ให้ทันกับสถานการณ์ เราได้มีการแบ่งกลุ่มศึกษากันถึงวันครึ่งตามภาษา และได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อทำงานต่อ มีจำนวน 4 ท่าน องค์ประชุมซึ่งมีกว่า 120 ประเทศ ได้รับรองเลือกผม(ตัวแทนPMSจากลาวและกัมพูชา) ร่วมกับสมาชิก PMS จากประเทศอังกฤษ สเปน และ บูกีนาฟาโซ รับช่วงต่อ เหตุการณ์นี้ทำให้ผมรำพึงถึงความรู้สึกลำบากใจของแม่พระ ตอนที่ทูตสวรรค์มาแจ้งสาร แต่ที่สุดพระนางก็ยอมรับ แม้ผมจะไม่เหมาะสมเลย แต่ก็ยอมรับการโหวตครั้งนี้…

หลังจากต้องเดินทางกว่า 18 ชั่วโมง ก็กลับมาถึงกัมพูชาอย่างปลอดภัย และตั้งใจทำงานต่อไป กลับมาก็กิจกรรมแห่ศีล(2/6/24) และวันเด็กสากล ก็จัดใส่จิตตารมณ์ธรรมทูตทันที… ปีนี้เราได้ทำฉลองระลึกถึงบรรดาผู้รับใช้ของพระเจ้าที่เป็นมรณสักขี ในประเทศกัมพูชา(8/6/24) ถึงวันฉลองทีไร ทำให้ผมคิดถึงภาระที่อยู่ในใจตลอด เพราะความที่ต้องรับผิดชอบในฐานะเป็นผู้รวบรวมกรณี(Postulator) พันธะที่ถูกมอบให้ติดตัวไปตลอด จนกว่าพวกท่านจะได้ก้าวขึ้นเป็นบุญราศี ขอพระองค์พระญาณเอื้ออาทร ช่วยเหลือผมและคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องทุกคนในเรื่องนี้ด้วยเทอญ

ก่อนจบ ผมต้องขอขอบพระคุณพี่น้องหลายท่านที่ถวายปัจจัยมาช่วยสร้างพระวิหาร ที่กรุงพนมเปญ งานช่วงสุดท้ายของฝ่ายโครงสร้าง(Structure) ก็ใกล้จะส่งมอบแล้ว แม้ปัจจัยจะยังไม่ครบ แต่งานของบริษัทย่อยๆในเรื่องระบบต่างๆ อีกหลายส่วนซึ่งจำเป็น ก็ให้ดำเนินการต่อไป… ยอมรับว่ามีปัญหากับบางบริษัทแล้ว แต่ผมก็มั่นใจว่า ท่าน น.ยอแซฟ จะช่วยเหลือให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี… ขอท่านนักบุญช่วยวิงวอนเทอญเพื่อเราเทอญ