บทความของคุณพ่ออาดรีอาโน เปโลซิน

พระเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ตอนที่ 5

“จงเปิดหัวใจของท่านเถิด”

วันหนึ่งข้าพเจ้าที่กำลังเดินตามทางแคบๆ ที่ตึกแดง ซึ่งเป็นชุมชนสลัมในเขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ข้าพเจ้าได้พบกับเด็กผู้หญิงเล็กๆ 2 คน ข้าพเจ้าถามพวกเธอว่า “ทำไมพวกเธอไม่ไปโรงเรียนหละ?” พวกเธอตอบข้าพเจ้าเพียงแค่รอยยิ้มเท่านั้น ข้าพเจ้าจึงถามต่อไปอีกว่า “พวกเธออาศัยอยู่ที่ไหน?” พวกเธอก็ชี้ให้ข้าพเจ้าดู ข้าพเจ้าก็เลยถามต่อไปอีกว่า “แล้วแม่ของพวกเธอหละอยู่ที่ไหน?” เด็กผู้หญิงคนที่โตกว่า ซึ่งอายุราวๆประมาณ 5 ปี เดินมาจับมือข้าพเจ้าและพาข้าพเจ้าเดินไป หลังจากนั้นก็บอกให้ข้าพเจ้ารออยู่ตรงนั้นก่อน เธอเข้าไปในกระท่อมโทรมๆเล็กๆหลังหนึ่งและก็เดินออกมาให้สัญญาณกวักมือเรียก ข้าพเจ้าเข้าไปในกระท่อมโทรมๆหลังนั้น ในกระท่อมหลังนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นแม่ของพวกเธอทั้งสองกำลังนอนอยู่บนที่นอน พวกเธอทั้งสองเข้าไปสวมกอดและจูบแม่ของพวกเธอ หลังจากนั้นก็มีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาในกระท่อมหลังนี้ เด็กผู้หญิงสองคนนี้ก็เลยบอกให้ข้าพเจ้าถอยห่างออกไปก่อนสักเล็กน้อย ซักพักพวกเขาก็ยิ้มแสดงความดีใจและกระโดดพลางพูดว่า “เย้…วันนี้เราจะได้ทานอาหารที่ดีและเอร็ดอร่อยกัน” หลังจากนั้นเด็กทั้งสองก็พาข้าพเจ้าไปที่บ้านของพวกเขาซึ่งทำจากไม้ที่เอามา ต่อกันเป็นแผ่น ครึ่งหนึ่งของพื้นบ้านอยู่ในโคลนตม หลังคาเต็มไปด้วยรูโหว่ ผ้าขี้ริ้วหล่นอยู่ตามพื้นแทบทุกที่ ในบ้านหลังนั้นก็มียายของเธอทั้งสองซึ่งตาบอดและกำลังนอนป่วย มีผู้ชายบางคนเมาเหล้าและกำลังนอนหลับอยู่ ขณะนั้นข้าพเจ้าจึงได้สวดภาวนาว่า “คงจะมีสักวันที่ข้าพเจ้าจะได้ทำในสิ่งที่ข้าพเจ้าวาดหวังไว้” 2-3 วันต่อมาเด็กผู้หญิงคนหนึ่งในสองคนนี้ได้โทรศัพท์มาหาข้าพเจ้าและบอก ข้าพเจ้าถ้าหากข้าพเจ้าต้องการที่จะให้เธอทั้งสองมาช่วยงานข้าพเจ้า แหละนี่แหละคือคำตอบของทั้งหมด ที่สุดข้าพเจ้าได้เปิดบ้านสำหรับเด็กผู้หญิงที่อยู่ในสลัมเป็นครั้งแรก ซึ่งต่อมาก็ถูกเรียกว่า “บ้านแห่งความหวัง” เด็ก ผู้หญิงสองคนนี้ก็เป็นเด็กสองคนแรกที่ได้เข้าไปอาศัยอยู่ในบ้านแห่งความหวัง นี้ ส่วนแม่ของพวกเขาก็เที่ยวไปจับหาผู้ชายคนนั้นคนนี้แบบไม่ซ้ำหน้า

บางครั้งบางคราวแม่ของพวกเธอก็ถูกจับเข้า ไปอยู่ในเรือนจำ(คุก)เนื่องจากขายยาเสพติด(ยาม้าหรือยาบ้า) เด็กผู้หญิงทั้งสองคนนี้ซึ่งเป็นลูกของเธอต่างก็รู้สึกดีอกดีใจและมีความสุข เมื่อแม่ของพวกเธอมาเยี่ยมพวกเธอที่บ้านแห่งความหวัง หลังจากนั้น 2-3 ปีต่อมาแม่ของเด็กผู้หญิงทั้งสองคนนี้ก็ล้มป่วยหนักด้วยโรคเอชไอวี(โรค เอดส์) แม่ของเด็กผู้หญิงทั้งสองคนนี้รู้สึกสูญเสียความมั่นใจในตัวเองและอยากจะตาย ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป ข้าพเจ้าพยายามที่จะช่วยแม่ของเด็กผู้หญิงสองคนนี้ด้วยการพาเธอไปหาหมอ รับยามากินและสอนเธอให้รู้จักวิธีการทำผ้าปาติก(การปักลายต่างๆลงใน ผ้า)เพื่อที่จะหาเลี้ยงชีพตัวเอง แต่แม่ของเด็กผู้หญิงสองคนนี้ก็ไม่ยอมร่วมมือกับข้าพเจ้า เธอต้องการเพียงแค่เงิน ดื่มสุรา(ดื่มเหล้า) เสพยาเสพติด หรือแม้กระทั่งว่าเธอแสดงความโกรธและด่าทอข้าพเจ้าและผู้ร่วมงานของข้าพเจ้า อย่างรุนแรง ข้าพเจ้ารู้สึกเสียใจและไม่ได้ไปเยี่ยมเธอเกือบ 2 อาทิตย์ แต่ข้าพเจ้าก็ไม่ได้ลืมเธอ ขณะที่ข้าพเจ้าสวดภาวนาภาพใบหน้าของเธอก็จะเข้ามาอยู่ในความคิดของข้าพเจ้า และรบกวนจิตใจของข้าพเจ้าอยู่เสมอ ครั้งหนึ่งพระเยซูเจ้าเคยพูดกับข้าพเจ้าว่า “ท่านไม่คิดหรือว่า เราได้หลั่งโลหิต(เลือด)ของเราเพื่อผู้หญิงคนนั้นด้วย?” “ท่านไม่คิดหรือว่าผู้หญิงคนนั้นก็เป็นที่รักของเราเช่นกัน?” ข้าพเจ้าจึงพูดไปแบบไม่มั่นใจและตะกุกตะกักว่า “ถูกต้อง พระเจ้าข้า ข้าพระองค์รู้ ข้าพระองค์ทราบ โปรดกรุณาช่วยทำให้ข้าพเจ้ารักเธอได้ไหม” หลังจากนั้น ข้าพเจ้าต้องพยายามต่อสู้ดิ้นรนกับตัวเองเป็นเวลายาวนานพอสมควรก่อนที่หัวใจ ของข้าพเจ้าจะพร้อมและเปิดเพื่อไปพบเธออีกครั้งหนึ่งในสภาพที่เธอยังคงเป็น เธออยู่เช่นเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ที่สุด ข้าพเจ้าจึงได้ตัดสินใจกลับไปหาเธอและเยี่ยมเยียนเธออีกครั้ง ข้าพเจ้าเข้าไปในกระท่อมของเธอและนั่งลง ณ ช่วงเวลานี้ตาของเธอก็เกือบจะบอดแล้ว ในมือของเธอกำลังถักผ้าปาติก(การปักลายต่างๆลงในผ้า) ด้านหลังเธอก็มีหลานชายตัวเล็กๆคนหนึ่งซึ่งพึ่งจะเกิดมา ส่วนลูกสาวบุญธรรม(ลูกเลี้ยง)ของเธอก็ถูกจับอยู่ในคุก ส่วนลูกชายและพ่อของเด็กน้อยคนนี้ก็ติดยาเสพติด ในวันนี้เองข้าพเจ้าได้กล้าและพร้อมที่จะเปิดหัวใจของข้าพเจ้าในการที่จะรับ ฟังเรื่องราวต่างๆของเธอเป็นครั้งแรก เธอเริ่มต้นเล่าว่า

“เมื่อเธอเป็นเด็ก เธอไม่มีโอกาสที่จะได้ไปโรงเรียน ไม่ได้เรียนหนังสือ เพราะเธอจะต้องช่วยแม่ของเธอดูแลน้องๆอีกจำนวนหลายคน ครอบครัวของเรายากจนมาก จนกระทั่งบางครั้งพวกเราไม่มีอะไรที่จะกินด้วยซ้ำไปในบางมื้อ ฉันเคยหิวมากกระทั่งต้องดื่มน้ำเข้าไปมากๆทดแทนอาหารจนท้องของฉันรู้สึกว่า เต็มไปด้วยน้ำ เมื่อฉันอายุได้ 14 ปี ฉันได้ไปอยู่กับผู้ชายคนหนึ่ง ครั้งแรกฉันคิดว่า ผู้ชายคนนี้จะดูแลฉันอย่างดีเหมือนพ่อของฉัน เพราะฉันไม่เคยเห็นพ่อและไม่เคยมีพ่อเลย แต่สุดท้ายหลังจากที่ฉันตั้งครรภ์(ตั้งท้องจะมีลูก) ผู้ชายคนนี้ก็ได้ทิ้งฉันหนีไป มีหลายคนบอกให้ข้าพเจ้าให้ไปทำแท้งซะ แต่ฉันไม่กล้าที่จะฆ่าลูกของฉันเองได้ เพราะมันเป็นบาปหนัก ต่อมาฉันก็ได้เจอกับผู้ชายคนใหม่อีก ฉันก็หวังเหมือนเช่นเดิมว่าผู้ชายคนนี้จะดูแลฉันและเอาใจใส่ฉันอย่างดี แต่ก็เหมือนเดิมกับผู้ชายคนแรก หลังจากที่ฉันตั้งครรภ์(ตั้งท้องมีลูก) ผู้ชายคนที่สองของฉันนี้ก็ได้ทิ้งฉันหนีไปอีก และสุดท้ายก็เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันกับผู้ชายคนที่สามของฉันอีก ปัจจุบันนี้ฉันมีลูก 3 คน ไม่มีสามี พ่อของเด็กๆไม่มี แต่ฉันจำเป็นที่จะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อลูกๆของฉันและหลานของฉัน”

Avatar

sunday

About Author

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

บทความของคุณพ่ออาดรีอาโน เปโลซิน

พระเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ตอนที่ 1

พระเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ตอนที่ 1 “เรารักท่าน พร้อมกับบาปของท่าน”       ในปี ค.ศ. 1997 เมื่อข้าพเจ้าอายุได้ 31 ปี และบวชเป็นพระสงฆ์มาได้ประมาณ 5 ปี คุณพ่อวิญญาณรักษ์ของข้าพเจ้าที่มหาวิทยาลัยแมรี่เกลด ในบ้านเณรของคณะปีเม (คณะธรรมฑูตแห่งกรุงมิลาน ประเทศอิตาลี่) ที่เมืองดิทรอยท์
บทความของคุณพ่ออาดรีอาโน เปโลซิน

พระเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ตอนที่ 2

พระเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระเป็นเจ้า ตอนที่ 2 ในเดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ. 1978 คุณพ่ออธิการคณะปีเมของข้าพเจ้าได้ขอให้ข้าพเจ้าไปเป็นธรรมฑูตหรือมิชชันนา รี่ผู้แพร่ธรรมที่ประเทศไทย ข้าพเจ้าได้เรียนภาษาไทยและได้มีประสบการณ์หนึ่งในช่วงเวลา 3 เดือนที่ข้าพเจ้าไปพักอาศัยอยู่ในวัดกับพระของศาสนาพุทธ(ครูบา) ที่วัดอุโมงค์ จังหวัดเชียงใหม่ ในปี ค.ศ. 1980 พระสังฆราช โรเบิร์ต รัตน์