ก้าวเดินไปด้วยกันด้วยความหวัง

เป็นเดือนมีนาคม 2025 ที่ผ่านมา ผมมีความยินดีกับสองมิสซังใหญ่ ที่ได้มีพระสังฆราชองค์ใหม่ คือ พระคุณเจ้าฟรังซิส เซเวียร์ วีระ อาภรณ์รัตน์ แห่งอัครสังมณฑลกรุงเทพฯ(2/3/25) และ พระคุณเจ้าอันตน อะดุน หงสะพง แห่งมิสซังเวียงจันท์ ประเทศลาว(25/3/25) นี่เป็นงานที่พระสมณทูต ตัวแทนพระสันตะปาปา และพระศาสนจักรท้องถิ่น ได้ร่วมกันสืบเสาะหาผู้ที่เหมาะสมที่สุด และดีที่สุด ในช่วงเวลานั้นๆ ของแต่ละพื้นที่ และเป็นผลจากคำภาวนาของพี่น้องด้วยเช่นกัน

พระคุณเจ้าแต่ละท่าน ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการทำงานและรับใช้พระศาสนจักรด้วยความซื่อสัตย์และกระตือรือร้นหลายต่อหลายปี ในชีวิตการเป็นผู้อภิบาลและแพร่ธรรม ผมเองได้มีส่วนร่วมในเหตุการณ์อันน่าประทับใจนี้ทั้งสองเหตุการณ์ในพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์และสง่างาม

คณะธรรมทูตไทย เป็นที่อยู่ภายใต้การคุ้มครองดูแลของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ(Diocesan right) ผมจึงได้เป็นตัวแทนของพี่น้องสมาชิก ไม่เพียงแต่มาร่วมความยินดี หรือในฐานะลูกคณะหนึ่งเท่านั้น แต่ในฐานะผู้ร่วมงานและตัวแทนของอัครสังฆมณฑล ในงานประกาศพระวรสารโดยตรงด้วย

ที่เวียงจันท์ ประเทศลาว ผมเดินทางโดยตรงจากพนมเปญ เพื่อไปร่วมงานอภิเสกแต่งตั้งพระคุณเจ้าอันตนอะดุน และคุ้นเคยกับท่านมากขึ้นเมื่อได้ทำงานเป็นผู้อำนวยการสมณองค์กรเพื่องานธรรมทูต(PMS) บางปีได้ไปเยี่ยมพระคุณเจ้า ถึงที่วัดที่ปากเซ และได้พูดคุยเรื่องงานประกาศพระวรสารด้วยกัน พระคุณเจ้าเป็นนักกฎหมายที่จบจากโรมเช่นกัน จึงได้มีโอกาสสอนวิชากฎหมายพระศาสนจักรให้กับเณรที่ประเทศลาว ซึ่งขาดแคลนอาจารย์อย่างมาก ผมและพระคุณเจ้าได้ร่วมงานกันในเรื่องศาลของพระศาสนจักรอยู่ด้วยกันระยะหนึ่ง ซึ่งเป็นความพยายามหาหนทางร่วมมือกัน ท่ามกลางอุปสรรคหลายด้าน

ขอพี่น้องสัตบุรุษ พระสงฆ์และนักบวช ในพระศาสนจักรท้องถิ่นทั้งสองแห่ง ได้ร่วมมือกับพระสังฆราช เพื่อพันธกิจของพระคริสต์ในการประกาศข่าวดีได้สำเร็จไปครับ

เทศกาลแห่งการควบคุม ลดละเลิก ในเทศกาลมหาพรตที่ผ่าน เราคงได้พบกับเรื่องราวความยากลำบากของผู้คนมากมาย ซึ่งแน่นอนว่า คงกระทบกับเราไม่มากก็น้อย อย่างเรื่องการขึ้นภาษีของอเมริกา แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น ซึ่งผมก็ได้มีส่วนร่วมในความยากลำบากของพี่น้องในวันนั้นพอดี คือ วันที่ 28 มีนาคม 2025 ในตอนเช้า ผมและสมาชิกคณะฯจากวัดนักบุญมาระโก ได้ร่วมพิธีปลงศพ คุณแม่ เซซีลีอา จำลอง ประจงกิจ มารดาของ คพ.อนุรักษ์ ประจงกิจ สมาชิกคนแรกของคณะธรรมทูตไทยเรา ขอขอบคุณชาววัดปากลัด และครอบครัวประจงกิจ โดยเฉพาะคุณแม่ ที่ถวายลูกถึงสองท่าน ได้รับใช้พระเจ้าและพระศาสนจักร ขอให้ท่านได้พักผ่อนตลอดนิรันดร์กับพระองค์

ก่อนกลับไปทำงานต่อ ตอนบ่ายวันนั้น ผมได้ไปประชุมเตรียมงานเรื่องกระจกสี สำหรับพระวิหารที่พนมเปญ ได้รับรู้และมีประสบการณ์เรื่องแผ่นดินไหวครั้งแรก… การประชุมถูกยกเลิก และการเดินทางก็เริ่มขึ้น ผมเห็นผู้คนมากมายตามท้องถนน พร้อมด้วยข้อมูลข่าวสารเรื่องแผ่นดินไหว ที่ถ่าถมเข้ามาตามสื่อสารมวลชนต่างๆ ความห่วงครอบครัวและคนที่รัก ต่างขับเคลื่อนผู้คนให้กลับไปบ้านให้เร็วที่สุด… ผมสงบนิ่ง และติดตามข่าวสารที่จำเป็น โดยเฉพาะเรื่องสนามบินที่ได้ปิดระบบ แน่นอนว่าทางพนมเปญ ก็รับรู้ถึงภัยพิบัติครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ต่อมาผมได้กลับมาถึงพื้นที่งานอย่างปลอดภัย และเตรียมรับมือกับผลกระทบต่างๆ ที่จะเข้ามาอย่างมีสติ

ผมคิดถึงวัดที่มีขนาดใหญ่ของกัมพูชา ที่กำลังจะเสร็จ เวลานี้ได้พบกับความท้าทายและความกังวล แต่ผมเชื่อมั่นว่า ความซื่อสัตย์มั่นคงของการทำงานของทุกบริษัท โดยเฉพาะบริษัทหลักมงคลกรุ๊ป(MKC) พร้อมกับการตรวจวัดคุณภาพทุกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มแรก โดยบริษัทที่ปรึกษา(SCC) จะทำให้พระวิหารแห่งนี้ ยั่งยืนมั่นคงให้นานที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้ ตอนนี้เรากำลังก้าวผ่านความท้าทายเรื่องเพดานโค้งในวัด ที่จะเป็นเทคนิคแห่งแรกในกัมพูชาที่จะทำให้สำเร็จได้ในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา งานพื้นที่รอบวัด รั้วและถนนได้เสร็จสิ้นแล้ว ส่วนงานในวัด กำลังรอรับบริจาคช่วยเหลือจากพี่น้องอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้ได้ราคากระจกสี เราจะใช้เทคนิคแบบโมเสก ที่ด้านหลังพระแท่น ราคาเคาะออกมาคือเกือบสองล้านบาทพร้อมค่าขนส่ง นอกนั้นก็จะเป็นเรื่องของการตบแต่งเขตศักดิ์สิทธิ์ ประตูบานหลักได้ติดตั้งแล้ว แต่ยังไม่มีระบบเสียง ตั้งใจว่าปีนี้ต้องแล้วเสร็จทุกอย่างที่จำเป็นก่อนครับ… ขอขอบคุณพี่น้อง ที่มีส่วนช่วยบริจาคทำบุญตลอดสามปีที่ผ่านมา เรามาถึงโค้งสุดท้ายแล้วครับในปีนี้ ขอพี่น้องก้าวไปด้วยกันต่อไปนะครับ

ที่กัมพูชาเทศกาลมหาพรตนี้ มีคำชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “เทศกาลอบรมพิเศษ” ครับเป็นช่วงเวลา ที่ประเทศในมิสซังอย่างเรา ให้ความสนใจอย่างมาก กับการเตรียมผู้ใหญ่ให้เป็นคริสตชน โดยมีพิธีรับผู้เตรียมตัวรับศีลล้างบาปอย่างสง่าในตามมิสซังต่างๆ ซึ่งทางมิสซังพนมเปญ ได้ทำรวมกันจากทุกเขตวัด ปีนี้จำนวน 125 ท่าน และมิสซังอื่นก็แยกทำตามเขต ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในช่วงสัปดาห์แรกของเทศกาลมหาพรต รวมกันแล้ว ปีนี้ก็ประมาณ สองร้อยกว่าท่านครับ

เทศกาลอบรมพิเศษนี้ ครอบคลุมถึงบรรดาคริสตชนเดิมอยู่แล้ว ให้พวกเขาพร้อมเดินทางแห่งความหวังไปพร้อมกับผู้เตรียมตัวเป็นคริสตชนใหม่ และนำความหวังนี้ไปยังพี่น้องที่เคยมีความเชื่อ และได้ห่างจากพระศาสนจักรไป ให้กลับมา

พี่น้องที่รักครับ แม้เราจะมีความท้าทาย ที่ทำให้กังวลหรือลำบากใจ แต่อย่าละทิ้งความหวัง ด้วยความเชื่อและความรักเป็นรากฐานที่จะพลังด้นให้ปีปิติมหาการุณย์นี้ ได้เป็นพลังของเราต่อไป อย่าเดินทางคนเดียวในยามที่เราสับสนในความเชื่อ ยังมีพี่น้องในพระศาสนจักรที่พร้อมจะก้าวไปด้วยกันกับเราเสมอ