ผู้รับใช้ข่าวดี

สวัสดีครับพี่น้องที่รัก คณะธรรมทูตไทยของเรา เกิดขึ้นด้วยจิตใจที่จะตอบสนองความรักของพระเยซูเจ้า น้อมรับตามพระบัญชาของพระองค์ ดังพระวาจา “ท่านทั้งหลายจงออกไปทั่วโลก ประกาศข่าวดีให้มนุษย์ทั้งปวง”(มก.16:15) ดังนั้น บรรดาพระสังฆราชและผู้ใหญ่ของพระศาสนจักรไทย จึงเห็นความสำคัญ จึงเปิดให้พระสงฆ์ นักบวช ฆราวาส ที่สนใจไปงานประกาศข่าวดีแก่ผู้ยังไม่รู้จักพระองค์ หรือไปยังดินแดนที่พระศาสนจักรยังไม่เข้มแข็ง และเมื่อมีสมาชิกคนแรกคือ คพ.อนุรักษ์ ประจงกิจ ในปี 1990 ก็ทำให้ความตั้งใจ ของพระศาสนจักรไทยในการทำงานโดยตรงคนต่างศาสนานี้ ได้เป็นรูปธรรมมากขึ้น

จวบจนปัจจุบัน คณะธรรมทูตไทยเราได้เข้าสู่ปี 35 ในปีมหาการุณย์นี้ เราได้มีการทำสมัชชาสามัญกันอีกครั้งหนึ่ง เป็นครั้งที่ 4 นับแต่เริ่มมีธรรมนูญมา เราได้ศึกษาและยึดเป็นแนวทางร่วมกันของคณะฯ มีจิตตารมณ์ มีโครงสร้างของคณะฯ การทำงาน ฯลฯ เราผ่านความยินดีและความทุกข์ยากต่างๆ พบกับประสบการณ์ใหม่ๆ แต่ด้วยการนำของพระจิตเจ้า และบรรดาองค์อุปถัมภ์ของคณะฯ ทำให้เราผ่านก้าวผ่านเหตุการณ์สำคัญๆ ต่างๆ ไปได้ด้วยดี ผ่านทางความช่วยเหลือของพระคาร์ดินัล และบรรดาพระสังฆราช และการสนับสนุนจากพี่น้องคณะนักบวช และพี่น้องสัตบุรุษต่างๆ

หลังจากสมัชชาได้ผ่านไป เราได้มีอธิการคนไทย คนที่สอง คือ คุณพ่อเปาโล ชัชชัย รวมอร่าม (เรือง ฉัตรเซะเรย) สมาชิกธรรมทูตไทยคนที่ 7 หลังจากที่อธิการเจ้าคณะฯคนไทยคนแรก คือ พระคุณเจ้า เปาโล ไตรรงค์ มุลตรี ได้รับการอภิเษกเป็นพระสังฆราชของสังฆมณฑลสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นสมาชิกธรรมทูตไทยคนแรกที่ได้รับเกียรตินี้

จนถึงวันนี้ เรามีสมาชิกที่ถวายคำมั่นสัญญาตลอดชีพแล้ว 26 ท่าน แต่พระได้ยกไปแล้ว 3 ท่าน กลับไปสังฆมณฑลต้นสังกัดเดิม 2 ท่าน ดังนั้น ในปัจจุบันต้นปี 2025 เรามีสมาชิกสรุป 21 ท่าน ในจำนวนนี้ เป็นพระสังฆราช 1 ท่าน เป็นสังฆานุกร 1 ท่าน(นครสวรรค์) และเป็นสามเณรชั้นปีสุดท้าย 1 ท่าน(สุราษฎร์ธานี) นอกนั้นเป็นพระสงฆ์จากสังฆมณฑลต่างๆ รวม 18 ท่าน ซึ่งมีสังกัดจากมิสซังต่างๆ ดังนี้คือ กรุงเทพฯ 8 ท่าน, ท่าแร่-หนองแสง 3 ท่าน, ราชบุรี 1 ท่าน, จันทบุรี 2 ท่าน, เชียงใหม่ 2 ท่าน, หลวงพระบาง 1 ท่าน, พนมเปญ 1 ท่าน มีคณะนักบวช ผู้ร่วมงานอีก 2 คณะฯ ได้แก่ (คณะผู้รับใช้ดวงหทัยนิรมลพระแม่มารีย์ 3 ท่าน, คณะพระหฤทัยแห่งกรุงเทพฯ 3 ท่าน)

เรามีสามเณรของคณะฯ 11 ท่านที่กำลังศึกษาในบ้านเณร ซึ่งมีชาวเวียดนามที่ใช้ภาษาไทยได้อย่างดีแล้วจำนวน 3 ท่าน และผู้ที่สนใจกำลังติดตามมาอีกเกือบสิบท่าน ทั้งนี้ต้องขอบคุณคุณพ่ออาดรีอาโน ที่ได้ ติดตาม และช่วยแนะนำพวกเขา และช่วยนำคณะฯโดยรับเป็นอธิการถึงสองสมัยแรก

ผมได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องสมาชิก ได้รับเลือกเป็นเจ้าคณะฯ ด้วยความกังวลและภาระต่างๆ มากมายที่ประเทศกัมพูชา ทำให้ผมติดเงื่อนไขที่ทำให้การเป็นเจ้าคณะฯ ไม่สามารถประจำอยู่ที่เมืองไทยได้ แต่ด้วยจิตตารมณ์ของซีน๊อดหรือการก้าวเดินไปด้วยกัน กับพี่น้องสมาชิกและที่ปรึกษา เราเชื่อมยังคงรักษา ความสัมพันธ์และทำงานได้ ด้วยเทคโนโลยีที่เรามีทุกวันนี้ และการเดินทางที่รวดเร็ว

สำหรับรายชื่อของคณะที่ปรึกษา มี คพ.เปโตร วิบูรณ์ ลิขิตธรรม เป็นรองอธิการฯ ที่ปรึกษาที่1 และเหรัญญิกสูงสุด, คพ.เปโตร บุญธรรม แหวนฉิมพลี เป็นที่ปรึกษาที่สอง และเลขาธิการสูงสุด, คพ.เปโตร ไวพจน์ บุญสวัสดิ์รักษา เป็นที่ปรึกษาที่สาม และ คพ. ยอแซฟ ยุทธนา วิทยานุลักษณ์ เป็นที่ปรึกษาที่ 4 พวกเราจะร่วมเดินทางไปด้วยกัน ทำงานเป็นทีม เพื่อช่วยให้พี่น้องสมาชิกได้บรรลุถึงกระแสเรียกแห่งการเป็นธรรมทูต และช่วยพระศาสนจักรในทุกที่ให้มีจิตตารมณ์แห่งการประกาศพระวรสารให้มากยิ่งขึ้น

สภาพระสังฆราชแห่งประเทศไทยได้สนับสนุนคณะฯนี้อย่างเป็นรูปธรรม ตั้งแต่ความพยายามก่อตั้งตั้งแต่เริ่มแรก และได้สนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยได้มีมติที่ สสท.7/2011 เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2011 ให้ทุกอาทิตย์แรก เดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นวันรณรงค์ถุงทานจากทุกสังฆมณฑ เพื่อสนับสนุนงานธรรมทูต ซึ่งเป็นเครื่องหมายของการร่วมมือกันในงานประกาศพระวรสารของบรรดาพระสงฆ์ นักบวช และพี่น้องสัตบุรุษทั่วไทย เพื่อสนับสนุนคณะธรรมทูตไทยทำงานธรรมทูต โดยค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่จะลงไปช่วยการบริหารจัดการในพื้นที่งาน เพื่อสนับสนุนชีวิตหมู่คณะ และอีกเกือบครึ่งหนึ่ง ใช้ไปในการอบรมสามเณร และผู้สนใจเข้ามารับใช้งานธรรมทูต พวกเราขอขอบคุณพระคุณเจ้า เพื่อนพี่น้องพระสงฆ์นักบวช และพี่น้องสัตบุรุษมา ณ ที่นี้ด้วย

เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2025 ที่ผ่านมา ที่กัมพูชา เราได้มีการสวดภาวนาระลึกถึงอย่างเป็นทางการ เพื่อระลึกถึงวิญญาณของ คพ. ฟรองซัวร์ ปองโช ที่วัด น.ยอแซฟ พนมเปญ โดยมีพระคุณเจ้าโอลีเวียร์เป็นประธาน ร่วมกับพี่น้องพระสงฆ์ โดยมีแขกผู้มีเกียรติ คือ พระเจ้าหลานเธอ ของพระบรมโกฏ สมเด็จนโรดม ร่วมกับ เอกอัครราชทูตจากสถานทูตฝรั่งเศส และ โปรตุเกส และ ศาสนจารย์ อรุณ จากสมาคมพระคัมภีร์ กัมพูชา มาร่วมในพิธีบูชาขอบพระคุณด้วย

คุณพ่อ ปองโซ เป็นพระสงฆ์คณะ MEP เข้ามาทำงาน ในกัมพูชา ก่อนสงคราม สนใจวัฒนธรรมเขมร และประกาศพระวรสารด้วยความเคารพ… ระหว่างสงครามได้ช่วยสัตบุรุษ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเวียดนาม พ้นจากทหารเสนาธิการลอนนอล.. ท่านเป็นชาวต่างชาติกลุ่มสุดท้าย ที่เขมรแดง ส่งขึ้นรถพร้อมชาวต่างชาติที่เหลือจากสถานทูตฝรั่งเศสมาพรมแดนไทย… ระหว่างสงคราม ช่วยชาวอพยพเขมรไปอยู่ประเทศที่สาม ติดตามช่วยชาวเขมรโพ้นทะเล และ กลับมาประกาศพระวรสารในค่ายอพยพ

หลังจากเปิดประเทศทำงานแปลพระคัมภีร์เป็นภาษาเขมร ร่วมกับสมาคมพระคัมภีร์กัมพูชา ทำสื่อการสอนคำสอน และหนังสือบทอ่านครบเทศกาล เพื่อให้สัตบุรุษได้ติดตามพระวาจาได้

แม้ท่านจะอารมณ์ร้อน แต่ก็มีใจเมตตา ช่วยเหลือก่อสร้างโรงเรียน ถนน คลองส่งน้ำฯลฯ ที่ จ.พระวิหาร และอีกหลายที่ โดยเป็นสะพานบุญจากประเทศฝรั่งเศสมายังพื้นที่ยากจน.. ท่านทำงานในมิสซังกำปงจาม ซึ่งค่อนข้างลำบาก ด้วยปัญหาสุขภาพ ได้กลับไปพักที่ประเทศฝรั่งเศส…พระได้ยกท่านไป เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2025

คณะธรรมทูตไทย ได้มีโอกาสร่วมงานกับท่าน คือสมัยเริ่มแรก คพ.วีรชัย ศรีประมงค์, ซ.เซเวียร์, ซ.เปลาจี และพี่ยศยา… คพ. ชัชชัย รวมอร่าม เองก็ได้เรียนภาษาเขมรที่ศูนย์คำสอนของท่านด้วย