ผู้นำแห่งพันธกิจ

ส่วนตัวผมเองแม้จะทำงานอยู่ต่างแดน แม้จะไกลแค่ไหนงานนี้ก็ต้องมา โดยยืมรถจากสัตบุรุษผู้มีน้ำใจดี ขับมาจากพนมเปญ แล้วไปฝากรถไว้ที่บ้านคณะมารีสบราเดอร์ที่จ.ไพลิน แต่ก่อนจะถึงประมาณสิบกว่ากิโลเมตร แบตเตอรี่กลับรวน เลยต้องปิดระบบเซ็ตใหม่ บราเดอร์กุสตาโว ก็แสนใจดี มาช่วยดูรถและพาไปส่งที่ชายแดนที่บ้านผักกาดด้วย จากนั้นก็นั่งรถสัตบุรุษที่มารับ ซึ่งเป็นการข้ามชายแดนครั้งแรกตรงจุดนี้

การได้มาร่วมงานบวชพระสังฆราชที่จันทบุรี มีนัยทางกฎหมาย คือ การรับรองว่า ผมยังสังกัดอยู่กับสังฆมณฑลนี้ ด้วยการแสดงเครื่องหมายของความนบนอบและความเป็นหนึ่งเดียวกันกับพระคุณเจ้า แต่ในทางกลับกัน ในแง่ของพระสังฆราชเองและสังฆมณฑล ก็เป็นการประกาศว่า พระคุณเจ้าได้ทำหน้าที่ของประกาศกอย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม โดยเสียสละสมาชิกสงฆ์ของสังฆมณฑล ให้ไปทำงานประกาศพระวรสารแก่คนต่างศาสนา(Ad Gentes) ในนามของพระคุณเจ้าและของสังฆมณฑล นี่เป็นพระคุณและพระพรของพระศาสนจักรท้องถิ่นทุกแห่ง ที่มีพระสงฆ์ของตน เข้าไปเป็นสมาชิกของคณะธรรมทูตไทย

ตอนขากลับ ก็รับซิสเตอร์คณะผู้รับใช้ที่ทำงานในกัมพูชาทั้งสามท่าน มาส่งที่ จ.บัดดำบอง และก็ขับรถกลับพนมเปญ ถึงวัดด้วยความปลอดภัย

งานที่สองต่อมาอีกหนึ่งเดือน วันที่ 2 มีนาคม 2025 ก็มาร่วมพิธีแต่งตั้งพระคุณเจ้าวีระ อาภรณ์รัตน์ เป็นอัครสังฆราชแห่งอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ งานนี้ก็ต้องมาครับ ประการแรก เพราะความสัมพันธ์ในฐานะที่คณะธรรมทูตไทย ได้ถูกรับเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ อย่างเป็นทางการ เมื่อวันนี้ 12 มกราคม 2011 ประการที่สอง คือ ความพิเศษของคณะธรรมทูต เพราะการที่เราไม่ใช่คณะนักบวชเหมือนหลายๆคณะ แต่เป็นคณะผู้แพร่ธรรมคณะเดียวที่อยู่ภายใต้อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ นั่นหมายความว่า พระคุณเจ้าและอัครสังฆมณฑลได้สนับสนุนงานประกาศพระวรสารอย่างเต็มที่และเป็นรูปธรรม

ผมในนามของผู้แทนคณะฯ ขอร่วมยินดีกับพระคุณเจ้าทั้งสองท่าน และด้วยความสำนึกของการก้าวไปด้วยกัน(Synodality) พวกเราขอเป็นแนวหน้าของงานประกาศพระวรสารในนามของพระคุณเจ้าทั้งสอง อย่างเต็มที่ครับ

กลับมาในหน้าที่แห่งผู้นำพันธกิจแห่งการประกาศพระวรสารในนามของสันตะสำนัก ซึ่งบางทีเรามักจะเคยได้ยินเกี่ยวกับ ยุวธรรมทูต หรือสมณองค์การนักบุญเปโตร ที่ช่วยบ้านเณร แต่สมณองค์กรนี้ ที่จริงมีถึง 4 สมณองค์กรย่อย ที่เรียกรวมกันว่า “สมณองค์กรสนับสนุนงานแพร่ธรรม” (Pontifical Mission Society_PMS) เรามีประชุมผู้อำนวยการระดับทวีปประจำปีคือ ทวีปเอเชียและโอเชียเนีย ปีนี้PMSออสเตรเลียหรือ Catholic Mission เป็นเจ้าภาพ ซึ่งได้จัดได้อย่างดีที่ ซิดนีย์ ที่บ้านบ้านแมรี่แมคคินลอฟ ศูนย์เข้าเงียบประชุม ระหว่างวันที่ 18-24 กุมภาพันธ์ 2025 ปีนี้ตัวแทนจากประเทศไทย เป็นผู้อำนวยการคนใหม่คือ คพ.ปิยะชาติ มะกรครรภ์ ส่วนผมปีนี้ ก็จะครบวาระละ 5 ปี ในปีนี้ ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของผมด้วย

เราได้ศึกษาการทำงานของ Catholic Mission การรณรงค์ถุงทาน เรื่องนโยบายเพื่อพิทักษ์ปกป้องผู้เยาว์ การเตรียมการเข้าร่วม Asian Mission Congress ที่จะจัดที่ปีนังในปลายปีนี้ เรื่องการแสวงหาความร่วมมือในระดับเอเชีย นอกจากนี้เรายังได้มีโอกาสไปมีส่วนร่วมมิชชันตามวัดต่างๆ ที่มีชีวิตชีวา ไปเยี่ยมอาสนวิหารที่สังฆมณฑลพารามัตตา ที่พระสังฆราชเป็นเชื้อสายเวียดนาม และมิสซาวันอาทิตย์ที่อาสนวิหารพระแม่มารีย์ ที่ซิดนีย์ ได้มีโอกาสไปเยี่ยมอดีดบ้านเณร ที่ตอนนี้กลายเป็นโรงเรียนแทน เพราะไม่มีเณรเยอะเหมือนแต่ก่อน ส่วนผมในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของคณะกรรมการแก้ไขข้อกำหนดของ PMS ต้องกลับมาทำการบ้านต่อ เรายังมีเรื่องท้าทายของงานประกาศพระวรสารเสมอ ในโลกปัจจุบันที่ศาสนา ไม่ได้เป็นคำตอบเดียวสำหรับชีวิตคนในปัจจุบัน

สำหรับงานก่อสร้างอาสนวิหารมิสซังพนมเปญ ตอนนี้ก็เหลือแต่งานเพดานโค้ง ที่ท้าทายวิศวกรรม พอสมควร กำลังเก็บสี และเตรียมติดตั้งประตู ส่วนงานภายนอกที่ต้องทำ แม้ปัจจัยยังไม่มา ก็คือ รั้วใหม่และถนนรอบอาคาร สำหรับรูปนักบุญยอแซฟองค์อุปถัมภ์ สูงสองเมตร จะตั้งเหนือประตูใหญ่เข้าวัด กำลังสั่งทำที่เมืองไทย ประมาณ 200,000 บาท พี่น้องสามารถมีส่วนรวมทำบุญได้ที่ คพ.ชัชชัย รวมอร่าม TTB 213-2-38029-2 ขอให้พระพรแห่งความหวัง ความเชื่อ และความรักจากองค์พระผู้เป็นเจ้า ลงมายังพี่น้องด้วยเทอญ