วัคซีนฝ่ายจิต

สวัสดีครับพี่น้อง ความกังวลต่างๆ เกี่ยวกับสุขภาพในช่วงการระบาดของโควิดนี้ ทำให้ กลายเป็นหัวข้อที่เราต้องพูดคุยกันทุกวัน ไม่ว่าจะเวลาพบหน้ากัน หรือผ่านทางช่องทางสื่อฯ นั่นก็ เพราะว่า เราเอาใจใส่เรื่องสุขภาพ ไม่อยากติดเชื้อ ไม่อยากลำบากคนอื่น หรือ ไม่อยากตาย
เราฝากความหวังไว้กับผู้บริหารบ้านเมือง จนบางคนลืมที่จะพึ่งตนเอง คือ การป้องกันตัว เองแบบพื้นฐาน หรือแม้แต่ริเริ่มความร่วมมือกันในชุมชน การช่วยกันดูแล และเฝ้าระวัง หรือ การเผื่อแผ่ ให้กับครอบครัวที่อาจจะสงสัยว่ามีการติดเชื้อ เราพูดถึงเรื่องการฉีดวัคซีน ยี่ห้อต่างๆ การกระจายวัคซีน ประสิทธิภาพ จนบางคนจิตใจหมกหมุ่นวุ่นวาย จนกระทบชีวิตประจำวัน และความสัมพันธ์กับบุคคลรอบข้าง
การฉีดวัคซีน เป็นเพียงยุทธศาสตร์หนึ่ง ที่รัฐบาลของหลายชาตินำเข้ามาใช้ เพราะมีความ เป็นไปได้ในการสร้างภูมิป้องกันหมู่ ซึ่งเป็นผลจากการค้นคว้าวิจัย แบบวิทยาศาสตร์ และเราก็พึ่ง พามัน และฝากความหวังกับมันอย่างมาก จนถึงมากจนเกินไป ปัจจุบันข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับวัคซีน หลั่งไหลถ่าถมเราไม่เว้นแต่ละวัน บางคนคิดได้ ก็ปลง อะไรก็ได้ ขอให้มีฉีด แต่บางคน คิดไม่ตกก็ ติดตาม เพื่อหาวัคซีนที่คิดว่าดีที่สุด หาช่องทางที่จะได้รับอย่างเร็วที่สุด หรือเลือกได้ตามใจได้ที่สุด
พิจารณาแค่เรื่องนี้ ก็ทำให้หลายคนมีเรื่องคุยได้ไม่เว้นแต่ละวัน และที่กัมพูชา เป็นหัวข้อที่ พูดกันมากเช่นกัน เมื่อสองสามเดือนที่ผ่านมา เพราะรัฐบาลไล่ฉีดปูพรมในเขตพนมเปญ ซึ่งมีการ ระบาดมากที่สุด แต่ส่วนใหญ่เป็นตามโรงงานและชุมชนแออัด ระบบการฉีดที่นี่แบ่งเป็นสองหน่วย งานหลัก 2 หน่วยคือ ๑. กระทรวงสาธารณสุข กระจายวัคซีนผ่านทาง เครือข่ายโรงพยาบาลและ ศูนย์อนามัยตำบล เก็บรายชื่อผ่านทางผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองท้องถิ่น และ ๒. หน่วย แพทย์ทหารเคลื่อนที่ กระจายไปตามหมู่บ้าน ชุมชนต่างๆ ตั้งศูนย์ฉีดที่วัดหรือโรงเรียน กลุ่มเป้า หมาย คนในพื้นที่ที่อยู่ใกล้ หรือ แบบเดินเข้ามาฉีดได้เลย
ด้วยมาตรการเช่นนี้ ทำให้ในเขตพนมเปญตามชุมชนส่วนใหญ่ ได้รับวัคซีนเป็นที่เรียบร้อย แล้ว และแน่นอนปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเรื่องลงทะเบียน การฉีด การ์ดผู้รับวัคซีน ผู้บริการ และผู้รับวัคซีนก็มีปัญหาเหมือนบ้านเรา
สำหรับบุคลากรในพระศาสนจักร ส่วนใหญ่รับผ่านทาง องค์กรสงเคราะห์คาทอลิก เช่น การิตัส หรือ เดินเข้าไปฉีดเลย ตามศูนย์กระจายวัคซีนที่อยู่ใกล้ ตัวอย่าง อย่างบรรดาซิสเตอร์และ บราเดอร์ที่ทำงานในเขตเดียวกับผม ก็วอร์คอินเข้าไปรับได้เลย ซึ่งช่วงนี้ การฉีดวัคซีนกำลัง กระจายออกไปตามชานเมืองหลวง และเข้าสู่จังหวัดรอบพนมเปญ
เมื่อกล่าวถึงการสร้างภูมิป้องกันทางกาย ส่วนใหญ่เราต้องรับวัคซีนสองเข็ม แต่เมื่อพูดถึง ภูมิคุ้มกันฝ่ายจิตใจด้วย ผมขอเสนอวัคซีนสองเข็ม สำหรับป้องกันเชื้อโรคแห่งความชั่วร้ายฝ่ายจิต ก็เป็นตัวการหนึ่งทำร้ายวิญญาณของเรา
วัคซีนฝ่ายวิญญาณเข็มแรกคือ การแสวงหา “ประสบการณ์กับพระเป็นเจ้า” เป็นวัคซีน ที่ทำให้เราสนิทสัมพันธ์กับพระองค์ได้ทุกกาลเทศะ ทำให้จิตใจของเรามีพระประทับอยู่เสมอ แต่เดิมเราได้ร่วมบูชาขอบพระคุณ เราได้รับรีบศีลมหาสนิท และศีลศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ได้อย่างสะดวก ซึ่งเป็นเครื่องมือช่วยเราได้อย่างดี แต่สภาพแบบปัจจุบันนี้ เราต้องสร้างประสบการณ์กับพระเจ้านี้ ด้วยตัวเอง เพราะเมื่อใดที่เรามีประสบการณ์เช่นนี้กับพระเป็นเจ้า แม่พระ หรือ นักบุญต่างๆ ที่เราศรัทธา เราจะมีความเชื่อที่มั่นคงขึ้น
วัคซีนเข็มที่สอง คือ “พระวาจาประจำวัน” อาหารจำเป็นสำหรับชีวิตฝ่ายกายอย่างไร พระวาจา ก็เป็นอาหารฝ่ายจิตใจของเราอย่างนั้น พระวาจาที่เราได้ฟังได้อ่านบ่อยๆ จะช่วยให้เรา สามารถมีหนทางในการดำเนินชีวิต ยิ่งในช่วงที่เราอาจจะพบกับปัญหาอุปสรรคมากมาย พระวาจา จะเป็นเหมือนแสงธรรมในใจเรา ให้เราดำเนินชีวิตดีมีคุณธรรม ห่างไกลจากการประพฤติตาม จิตใจฝ่ายต่ำที่อยู่ในตัวเราทุกคน
เมื่อถึงเวลาที่เราสามารถเข้าถึงศาสนบริการของพระศาสนจักรได้ นั่นเป็นโอกาสที่เราจะได้ รับวัคซีน เข็มที่สาม คือ “ศีลศักดิ์สิทธิ์” ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นศีลมหาสนิท ศีลอภัยบาป นำเรากลับ เข้าสู่ชีวิตที่ใกล้ชิดพระได้อีกครั้งหนึ่ง
พี่น้องที่รักครับ เราและลูกหลานเรา เด็กๆของเรา กำลังรอเราสร้างวัคซีนฝ่ายจิตแบบนี้ขึ้น ในครอบครัว พวกเขาเกิดมาในยุคสมัยที่มีสื่อต่างๆ เข้ามาทุกวัน พวกเขามีเวลาเล่นเกมส์ได้ทุกวัน แต่ไม่มีเวลาสร้างประสบการณ์กับพระเจ้า ไม่มีเวลาได้อ่านพระวาจาของพระ แล้วเมื่อมีเชื้อโรค ฝ่ายวิญญาณเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งแห่งบาปต้นเจ็ดประการ หรือ ไวรัสร้ายจากความเชื่อผิดๆ ที่มาตามสื่อฯ ต่างๆ ในสังคม เมื่อนั้นพวกเขาจะมีอะไรไปป้องกันวิญญาณของพวกเขาเอง
ขอให้ช่วงการระบาดที่จะยังไม่ผ่อนคลายในปีนี้ ให้พี่น้องคริสตชน ได้รับวัคซีนฝ่ายจิต กันอย่างพร้อมหน้านะครับ