ซิสเตอร์คณะรักกางเขน แห่ง อุบลราชธานี ร่วมงานคณะธรรมทูตไทย ในประเทศกัมพูชา
ซิสเตอร์ทั้งสองท่านได้เข้ามาร่วมทำงานกับคณะธรรมทูตไทย โดยยังสังกัดเป็นสมาชิกจากคณะรักกางเขน แห่ง อุบลราชธานี เข้าร่วมคณะธรรมทูตไทย ในปี 1992 โดยมี ซ.เซเวียร์ ทิพากร บุญประสม และซิสเตอร์ เปลาจี สมปอง สายสอน เป็นทีมแรกร่วมงานกับ คพ.วีรชัย ศรีประมงค์ ที่กลุ่มคณะธรรมทูตไทยเข้าไปทำงานในประเทศเขมร ตั้งแต่ปี 1993 และยังคงอยู่เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
ซิสเตอร์ ได้รับมอบหมายดูแลบ้านเด็กเยาวชนหญิงของมิสซังกอมปงจาม ซึ่งเป็นเด็กที่ยากจน และเป็นชาวชนเผ่า เพื่อได้มี โอกาสศึกษามากขึ้น และเตรียมตัวได้กลับไปเป็นเรี่ยวแรงของวัดในหมู่บ้านของเขาในอนาคต
สภาพภูมิศาสตร์
จ.กอมปงจาม เป็นจังหวัดที่เป็นศูนย์กลางของเขตจังหวัดในทางภาคอีสานของประเทศเขมร ตั้งอยู่ฝั่งขวาของแม่น้ำโขง ที่ไหลผ่านตัวจังหวัดเพื่อมุ่งสู่พนมเปญ อยู่ห่างจากพนมเปญ โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง สภาพพื้นที่เป็นทำสวนทำไร่ มีสวนยางที่นับเป็นพื้นที่กว้างที่สุดของประเทศ เป็นตัวจังหวัดที่สามารถแยกเส้นทางขึ้นไปทางตอนใต้ของประเทศลาว และไปทางตะวันออก เพื่อติดต่อกับเวียดนาม
สภาพของพระศาสนจักร
เขตมิสซังกอมปงตาม ได้รับการประกาศจากกรุงโรม ปี 1968 ประกอบด้วย 7 จังหวัดทางภาคอีสานและตะวันออกของประเทศ โดยมี พระสังฆราช อังเดร เลอเฟฟ(MEP)เป็นพระสังฆราชองค์แรกและหลังจากสงครามพระคุณเจ้าได้กลับมาติดตามและรวบรวมกลุ่มคริสตชน
ใหม่อีกครั้งปัจจุบันมรณภาพไปแล้ว
พระคุณเจ้า แอนโทนี ซามี ซูไซเรียจ (MEP) ได้รับการแต่งตั้งเป็น Apostolic Prefect เมื่อปี 1995 จนกระทั่งปัจจุบัน มีพระสงฆ์ร่วมงานประมาณ 7 องค์ ในจำนวนนี้ เป็นชาวเขมรหนึ่งองค์
ซ.เซเวียร์ ทิพากร บุญประสม
ได้ทำงานร่วมกับพระสงฆ์ของมิสซังกำปงจาม มิสซังนี้ ยังอยู่ในสถานะ Apostolic Prefect แบ่งเขตการทำงาน ออกเป็นเขตวัดต่างๆ ศึกในแต่ละเขต ดูแลวัดย่อยออกเป็นอีกหลายวัดปัจจุบัน ซิสเตอร์ ได้รับผิดชอบงานด้านคำสอน และช่วยเหลือดูแล ซิสเตอร์ที่ถวายตัวแล้วของคณะรักกางเขน แห่งกัมพูชา ซึ่งปัจจุบันมี สมาชิก ถวายตัวตลอดชีพแล้ว สองท่านและถวายตัวครั้งแรกอีกท่านหนึ่งงานส่วนใหญ่ อยู่เขต จ.กรอเจะ ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ของประเทศกัมพูชาติดแม่น้ำโขง มีกลุ่มคริสตชนที่เล็กมาก มีที่ล้างบาปแล้ว ประมาณ สิบคน เพราะเป็น การเริ่มงานสร้างกลุ่มครั้งแรก ไม่มีพระสงฆ์ประจำ แต่พระสงฆ์จะเดินทาง ไปถวายมิสซาตามวัดต่างๆ ในเขต ปัจจุบัน ยังไม่มีวัด แต่ได้ซื้อที่ดิน และมีบ้านพักเล็ก สำหรับซิสเตอร์ อยู่ประจำ เพื่อทำงานกับชาวบ้านโดยเฉพาะคนต่างศาสนา
ช่วงการเริ่มงานที่ทำ
ซิสเตอร์เริ่มงานครั้งแรกในตัวจังหวัด กำปงจามก่อน โดยออกไป เยี่ยมชาวบ้านที่ไม่ห่างจากตัวจังหวัดนัก เช่น ภูมิไทม งานระยะแรกมักจะติดตามไปกับพระสงฆ์ ที่ต้องออกไปถวายมิสซาในที่ต่างๆ โดยเฉพาะที่ห่างไกลเช่น จังหวัดสตรึงแตรง และจังหวัดรัตนคีรี
ต่อมาได้ย้ายไป เสริมสร้างกลุ่มคริสตชนที่ จังหวัดไปเวง ระยะหนึ่งโดยเฉพาะช่วยซิสเตอร์เขมร เพื่อแนะนำและสานต่องานอบรม จนสามารถเริ่มงานตามวัดได้เอง ปัจจุบัน ซิสเตอร์เริ่มงานใหม่อีกครั้งที่จังหวัดกรอเจะ เริ่มงานด้านอบรม กับเด็กๆ
และชาวบ้าน สอนชาวบ้านโดยเฉพาะเรื่องคำสอนและพิธีกรรม
ซิสเตอร์เริ่มงานครั้งแรกกับซิสเตอร์เซเวียร์ แต่ช่วยงานด้านคำสอน และงานอบรมเป็นส่วนใหญ่ ในช่วงแรกซิสเตอร์ต้องออกไปตามหมู่บ้านและจังหวัดต่างๆ เช่น จังหวัด มณดลคีรี ปัจจุบัน ได้สานต่องานด้านอบรมกระแสเรียกของคณะฯ ที่ตัวจังหวัดและช่วยงานคำสอนที่วัดในตัว จังหวัดกำปงจาม และทำงานตามนโยบายของมิสซังเป็นหลัก สถานที่ทำงานปัจจุบัน คือศูนย์เยาวชนหญิง และบ้านอบรมผู้ฝึกหัด คณะรักกางเขน แห่งกัมพูชา ศูนย์เยาวชนหญิงนี้จะรับเยาวชนหญิงที่ ยากจน และด้อยโอกาสทางการศึกษา ได้มีโอกาสได้รับการอบรม และ สามารถศึกษาต่อได้ ที่ตัวจังหวัดกำปงจาม ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กหญิงชนเผ่า ที่มาจาก จังหวัด มณดลคีรีส่วนบ้านนักบวช ได้สานต่องานด้านอบรมกระแสเรียก การเป็น นักบวชหญิง ซึ่งมีบ้านอบรมที่ตั้งขึ้นเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
หน้าที่การงานในปัจจุบัน
ซิสเตอร์คณะรักกางเขน แห่ง อุบลราชธานี ได้เริ่มงานแพร่ธรรม และการก่อสร้างพระศาสนจักร โดยมุ่งเน้นงานที่จำเป็นและเร่งด่วนของมิสซังเป็นตัวตั้ง เริ่มแรกทำงานกับเยาวชนหญิง ให้ได้มีอาชีพและได้รับการอบรมอย่างดี โดยเฉพาะเรื่องความเชื่อ โดยใช้การสอนตัดเย็บเป็นกิจกรรมหลัก ช่วยงานด้านคำสอนของสังฆมณฑล โดยเฉพาะเรื่องการอบรมเยาวชนหญิง ดูแลงานอภิบาล การด้านพิธีกรรม และงานสังคมสงเคราะห์
ปัจจุบัน งานสอนตัดเย็บยกเลิกไปแล้ว แต่ผลจากงานนี้ ได้ทำให้มีเยาวชนสนใจชีวิตนักบวช ดังนั้น ซ.เซเวียร์ จึงรับหน้าที่เป็นผู้ดูแลบ้านโนวิช สำหรับผู้เตรียมตัวถวายตัวเป็นนักบวช หลังจากการทุ่มเทหลายปี ก็ได้สมาชิกซิสเตอร์พื้นเมือง ปัจจุบันมี 3 คน ส่วนซิสเตอร์เปลาจี ได้ต่อเนื่องการอบรมเยาวชนหญิง และออกหมู่บ้านไปกับพระสงฆ์ ตามวัดที่ห่างไกลต่างๆ เพื่อช่วยสอนคำสอน และเรื่องอนามัย
หน้าที่การงาน ได้ปรับเปลี่ยนเมื่อปี 2007 เมื่อซิสเตอร์ เซเวียร์ กับไปฟื้นฟูชีวิต และพักภารกิจหนึ่งปีที่ประเทศไทย ซิสเตอร์เปลาจี ได้รับมอบหมาย ให้ดูแลบ้านโนวิช รับช่วงต่อ ส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับพระศาสนจักรท้องถิ่น ก็ยังคงต่อเนื่องไปตามปกติ