บทความของมิชชั่น

บทความของมิสชั่น ฉบับที่ 7

ปีแห่งความเชื่อ กับงานด้านกระแสเรียก

            ในปีแห่งความเชื่อ ที่พระสันตะปาปากิตติคุณ เบเนดิกต์ ที่ 16  ได้ ทรงริเริ่มนี้ เป็นหน้าที่รับผิดชอบ หลัก ของสมณสภาเพื่อส่งเสริมการประกาศพระวรสารใหม่ โดยจัดโครงการและกิจกรรมตลอดปี เพื่อส่งเสริมความเชื่อ ทั้งนี้ ในส่วนของแต่ละมิสซังและสังฆมณฑลทั่วโลก ก็มีแตกต่างกันไป แต่สำหรับที่โรม ในฐานะศูนย์กลาง ได้จัดกิจกรรมต่อเนื่องตลอดปี โดยเฉพาะในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับ การแสวงบุญที่โรม ได้มีเวบไซด์โดยเฉพาะชื่อ www.operaromanapellegrinaggi.org เพื่อติดตามกิจกรรม ต่างๆ ซึ่งจัดที่กรุงโรม กิจกรรมที่จัดผ่านมาแล้วในปี 2013 มีดังนี้คือ งานเปิดปีความเชื่อ, วันโปรดศีลกำลังเยาวชน(27-28 เมษายน), วันแห่งความเป็นพี่น้องและกิจศรัทธาสาธารณะ(3-5 พฤษภาคม), วันแห่งการเฉลิมฉลองสมณสาน์สข่าวดีแห่งชีวิต(15-16 มิถุนายน), กิจกรรมการแสวงบุญสู่หลุมศพนักบุญ เปโตรของบรรดาสามเณร, โนวิส และผู้เกี่ยวข้องงานด้านกระแสเรียก(4-7กรกฏาคม) ซึ่งผมจะแบ่งปัน เกี่ยวกับงานนี้ครับ ส่วนกิจกรรมที่เหลือคือ วันชุมนุมครูคำสอน (26-29 กันยายน ซึ่งได้ข่าวว่าจะมีตัวแทน จากประเทศไทยเรามาร่วมด้วย) และวันแม่พระ (12-13 ตุลาคม) ก็จะจบกิจกรรมปีแห่งความเชื่อ 2012-2013

            สำหรับงานด้านกระแสเรียกนี้ กิจกรรมวันแรก(4/7/13) ตอน บ่าย เริ่มจากบรรดาสามเณร โนวิส ผู้ฝึกหัด และผู้เกี่ยวข้องกับงานด้านกระแสเรียก เดินจาริกแสวงบุญจากปราสาทเทวดา(ซานอังเจโล ซึ่งอยู่ติดแม่น้ำไทเบอร์ ห่างจากวาติกันประมาณหนึ่งกิโลเมตร) ไปยังหลุมฝังศพของนักบุญเปโตร และมีการ ภาวนาและประกาศข้อความเชื่อที่นั่น วันที่สอง(5/7/13) ตอน เช้ามีสอนคำสอนตามกลุ่มภาษา เที่ยงตรงมี มิสซา บ่ายเปิดให้แสวงบุญตามวัด ที่กำหนดให้เป็นวัดที่รับพระคุณการุณย์ในการแสวงบุญ ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 7 เส้น ทาง(กลุ่มวัด)ในโรม(มีแผนที่แจก) ตอนค่ำมีกิจกรรมการแบ่งปันเกี่ยวกับกระแสเรียก และการเป็นพยาน วันที่สามเป็นวันเสาร์(6/7/13) มีมิสซาตอนเช้าและตอนสายมีศีลอภัยบาป และเปิดโอกาสให้แสวงบุญต่อ แต่สำหรับผู้เกี่ยวข้องในการอบรม  เช่นบรรดาอธิการบ้านเณร คณะผู้ให้การอบรม ได้เข้าสัมมนา ตลอดช่วงเช้าเกี่ยวกับหัวข้อ “บทบาทของผู้ให้การอบรม สู่งานรับใช้การประกาศพระวรสารใหม่” ส่วน ตอนเย็น ที่หอประชุมเปาโลภายในเขตวาติกัน พระสันตะปาปาฟรังซิส ได้พบปะบรรดาสามเณร โนวิส และทรงเทศน์สอนพวกเขา ตอนเย็นทางวาติกัน ได้เปิดสวนภายในวาติกัน เพื่อกิจศรัทธาต่อแม่พระ วันสุดท้าย เป็นวันอาทิตย์(7/7/13) พระสันตะปาปาได้เป็นประธาน ปิดกิจกรรมสำหรับกระแสเรียก ภายในบาซิลิกานักบุญเปโตร

            งานนี้ ต้องขอบพระคุณพระเป็นเจ้า สำหรับการได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมและโครงการนี้ ทั้งนี้เพราะ เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ผมได้เลือกที่จะใช้เวลาช่วงปิดเทอม ขอเข้าเรียนหลักสูตรผู้ให้การอบรม ซึ่งจัดสำหรับ ผู้เกี่ยวข้องกับการอบรมทั่วโลกที่ บ้านเณรมารีย์มารดาพระศาสนจักร(Pontificio Collegio Maria Mater Ecclesiae) ปีนี้มีเข้าร่วมประมาณ 80ท่าน ซึ่งทั้งหมดเป็นพระสงฆ์ ที่มาจาก สังฆมณฑลและนักบวชต่างๆ ทั่วโลก จากประเทศอาเซียนเรามีไทย พม่า กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย

            วันที่เราได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับกิจกรรมนี้คือ ได้ไปฟังบรรยายที่หอประชุมที่มหาวิทยาลัยลาเตลัน จากพระอัครสังฆราช ริโน่ ฟิซิเชลล่า ประธาน สมณสภาเพื่อส่งเสริมการประกาศพระวรสารใหม่  โดยเน้นเรื่องการศึกษาและการอบรม โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เตรียมตัวเป็นพระสงฆ์ หรือนักบวชในอนาคต สำหรับช่วงบ่ายพวกเราที่เข้าร่วมสัมมนา ก็มีเวลาสำหรับเยี่ยมชมโรม และแสวงบุญ ตามโบสถ์วิหารต่างๆ ซึ่งสำหรับบางคนนับว่าเป็นประสบการณ์ครั้งแรกที่ได้สัมผัสกรุงโรม และการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ทางผู้จัด ได้จัดเตรียมคู่มือแผนที่ ให้สำหรับบรรดาเณร โนวิช ได้มีโอกาสรำพึงไตร่ตรองด้วย มีวจนพิธีกรรมสั้นๆ และการรับศีลอภัยบาป รวมทั้งปฏิบัติตามเงื่อนไขต่างๆ เพื่อได้รับพระคุณการุญ ในปีแห่งความเชื่อนี้ด้วย

            สำหรับพี่น้องที่ไม่มีโอกาสมาร่วมที่กรุงโรม ทางโรมได้นำเสนอวิธีการเพื่อให้พี่น้องสัตบุรุษ ได้มี ส่วนรับพระคุณการุญนี้ด้วย ซึ่งพระคุณเจ้าวีระ อาถรณ์รัตน์ ได้สรุปมาได้ดังนี้ ตลอดปีแห่งความเชื่อ (11 ตุลาคม 2012 24 พฤศจิกายน 2013) สัตบุรุษ ทุกคนที่เป็นทุกข์จริงใจ โดยรับศีลอภัยบาป และศีลมหาสนิท อธิษฐานภาวนาตามเจตนาของสมเด็จพระสันตะปาปา จะได้รับพระคุณการุญครบบริบูรณ์ (Plenary Indulgence) เพื่อการชดเชยใช้โทษบาปของตนเอง อาศัยพระเมตตาของพระเจ้า และอุทิศแด่วิญญาณ ของผู้ล่วงลับ

ก. ทุกครั้งที่ท่านฟังบทเทศน์อย่างน้อย 3 ครั้ง หรือร่วมฟังการบรรยายอย่างน้อย 3 ครั้ง เกี่ยวกับ การปฏิบัติตาม สภาสังคายนาวาติกันที่ 2 และเกี่ยวกับ หนังสือคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก ในวัดหรือในสถานที่เหมาะสม

ข. ทุก ครั้งที่ท่านไปจาริกแสวงบุญมหาวิหารของสมเด็จพระสันตะปาปา กาตากอมคริสตชน (สุสานใต้ดิน) อาสนวิหาร สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ พระสังฆราชท้องถิ่นได้กำหนดสำหรับ ปีแห่งความเชื่อ (ตัวอย่าง เช่น มหาวิหาร สักการสถานของพระนางพรหมจารีมารีย์ของอัครสาวก หรือนักบุญองค์อุปถัมภ์) ร่วมพิธีกรรม หรืออย่างน้อยมีช่วงเวลาไตร่ตรองรำพึงนานพอสมควร และสวดบทข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย บทยืนยันความเชื่อ วอนขอต่อพระนางพรหมจารีมารีย์ หรือแล้วแต่กรณี ภาวนาต่ออัครสาวก หรือนักบุญองค์อุถัมภ์

ค. ทุก ครั้งในวันที่พระสังฆราชท้องถิ่นกำหนดสำหรับปีแห่งความเชื่อ (ตัวอย่างเช่น สมโภชพระเยซูเจ้า พระนางพรหมจารีมารีย์ วันฉลองอัครสาวก นักบุญองค์อุปถัมภ์ และวันฉลองธรรมาสน์นักบุญเปโตร) ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เมื่อท่านร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณอย่างสง่า หรือพิธีทำวัตร รวมทั้งประกาศ ยืนยันความเชื่อในบททางการแบบใดแบบหนึ่ง

ง. วันใดวันหนึ่งในระหว่าง ปีแห่งความเชื่อ ท่าน เลือกอย่างเสรีไปเยี่ยมสถานที่โปรดศีลล้างบาป หรือสถานที่ อื่นๆ ที่ท่านได้รับศีลล้างบาป ถ้าท่านรื้อฟื้นคำสัญญาแห่งศีลล้างบาป ในบททางการแบบใดแบบหนึ่ง

สัตบุรุษผู้เป็นทุกข์เสียใจในบาป แต่ไม่สามารถร่วมฉลองได้เพราะเหตุผลต่างๆ (เช่น ชีลับ นักโทษ คนชรา ผู้ ป่วย ผู้อยู่ในโรงพยาบาล หรือป่วยนาน) จะได้รับพระคุณการุญโดยปฏิบัติตามเงื่อนไขเดียวกัน หากร่วมใจกับสัตบุรุษอื่นในช่วงเวลานั้นเป็นพิเศษ ฟังโอวาทของสมเด็จพระสันตะปาปา หรือพระสังฆราช ที่ถ่ายทอดทางโทรทัศน์ หรือวิทยุ ท่านสวดที่บ้าน หรือสถานที่ที่ท่านอยู่ (เช่น วัดน้อยในอาราม ในโรง พยาบาล ในทัณฑสถาน…) สวดบทข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย บทยืนยันความเชื่อ และบทภาวนาอื่นๆ ที่สอดคล้องกับจุดประสงค์ของปีแห่งความเชื่อ พร้อมกับถวายความทุกข์หรือ ความยากลำบากในชีวิตของท่าน [1]

ใน วันที่สมเด็จพระสันตะปาปา ทรงให้โอวาทกับบรรดาเณรและผู้ฝึกหัด วันนั้นพระองค์ตรัสจากใจ ของพระองค์เอง ทรงสอนว่า กระแสเรียกการเป็นพระสงฆ์หรือนักบวช ไม่ใช่เพียงเรื่องชั่วครั้งชั่วคราว แต่เราต้องสวดขอพระเป็นเจ้าให้เราสามารถตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาด เพื่อติดตามพระองค์ เพราะนี่คือ การตอบเสียงความรักของพระองค์ และต้องเป็นชีวิตแห่งความชื่นชมยินดีมีความสุข  ทรงเน้นเรื่องการ ใช้ทรัพย์สมบัติในโลก การมีรถยนต์ การมีสมาร์ทโฟน เลือกที่ใช้ได้แบบเรียบง่าย หลีกเลี่ยงความหรูหรา ทรงเน้นสี่ด้านคือ การมีชีวิตฝ่ายจิต, การแสวงหาความรู้, การทำงานอภิบาลรับใช้ และการมีชีวิตหมู่คณะ ซึ่งจุดหลังนี้ทรงเน้นให้การหลีกเลี่ยงกันนินทากัน และกล้าที่จะยอมรับความผิดบาปของตนเอง รวมทั้งให้ ออกไปทำงานประกาศพระวรสารด้วย ไม่ใช่แค่วิจารณ์แล้วก็ไม่ได้ทำอะไร ให้ดูคุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตา เป็นแบบอย่างที่กล้าหาญสำหรับเราทุกคน

ผม อย่างขอเสริมอีกว่า การอบรมเณร ผู้ฝึกหัด ไม่ใช่แค่งานของอธิการ หรือคณะผู้ให้การอบรม เท่านั้นนะครับ แต่เป็นงานของเราในกลุ่มคริสตชนทุกคนด้วย…


[1] พระสังฆราช วีระ อาภรณ์รัตน์ แปลจาก  Losservatore Romano, 10 ตุลาคม 2012, เล่มที่ 41, หน้า 4.

admin@admin.com

About Author

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

บทความของมิชชั่น

บทความของมิสชั่น ฉบับที่ 16

การก่อตั้งกลุ่มคริสตชนที่เปรกตาแตน           งานธรรมทูต คืองานประกาศพระอาณาจักรของพระเป็นเจ้าบนแผ่นดินนี้ พระอาณาจักรของ พระเจ้า เราเห็นไม่ได้ แต่ถ้าที่ใดมีกลุ่มคริสตชน นั่นก็เป็นเครื่องหมายที่ทำให้เรามีความหวังที่จะได้เห็น พระอาณาจักรของพระเจ้าตรงนั้น   พระศาสนจักรคือ เครื่องหมายศักดิ์สิทธิ์ (ศีลศักดิ์สิทธิ์) ของพระอาณาจักรพระเจ้า           ในเขตวัดที่ผมดูแลอยู่นั้น กำลังมีกลุ่มคริสตชนใหม่เกิดขึ้นสองกลุ่ม กลุ่มที่จะแบ่งปันให้ผู้อ่านฉบับนี้ คือ กลุ่มคริสตชนที่เปรกตาแตน
บทความของมิชชั่น

บทความของมิสชั่น ฉบับที่ 1

ความเชื่อ ที่เป็นชีวิต ของ น.เลโอปอลโด (แห่งปาดัว)        สวัสดีครับ ผู้อ่านที่รักทุกท่าน เร่ิมต้นปี ก็เป็นเวลาที่ดี ที่เราจะเร่ิมต้นรื้อฟ้ืนถึงความเชื่อ เของเรากันอีกครั้งนะครับ ซึ่งทุกๆกิจกรรมของเรา สามารถโยงเข้ามา เกี่ยวข้องกับความเชื่อ ได้ทั้งส้ิน ผ่านทางการดำเนินชีวิตตามกระแสเรียกเราแต่ละคน