เป็นความจริงที่ว่า หลายปีที่ผ่านมา กับวันเวลาที่ผ่านไป คณะธรรมทูตของเราระยะหลังๆ นี้ กำลังมีเครื่องหมายของความเจริญเติบโต เช่น ปี 2017 ที่ผ่านมา หลังจากการประชุมสมัชชาใหญ่ เราได้เปิดสนามงานใหม่ที่ประเทศไต้หวัน ในปี 2018 นี้ พวกเราได้สมาชิกเพิ่มอีกสองท่าน ที่ได้เป็น สมาชิกถาวรของคณะธรรมทูต ผ่านทางการให้คำมั่นสัญญาตลอดชีพ คือ บร.ชัยธวัช ธีรานุสนธิ์ จากวัดแม่พระฟาติมา ดินแดง กรุงเทพฯ บร.อภิชาติ นามวงศ์ จากวัดพระหฤทัยขลุง จ.จันทบุรี เป็นสมาชิกคนที่ 18 และ 19 ตามลำดับ
{besps}documents/frdenarticle/article31{/besps}
เราได้เริ่มมีสตรีกลุ่มเล็กๆ ประมาณ 5-6 คนที่กำลังสนใจอุทิศตนอย่างจริงจัง ในการทำงาน ธรรมทูตตามผู้ใหญ่ที่จะได้มอบหมาย โดยตั้งใจอุทิศตนเองทั้งครบเพื่องานธรรมทูต สตรีกลุ่มนี้ อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของ “คณะธรรมทูตฆราวาสหญิง” (Lay Woman Missionary) ที่จะร่วมงาน อย่างใกล้ชิดกับคณะธรรมทูต แม้จะยังไม่มีอะไรเป็นทางการ แต่เป็นเครือข่ายที่เห็นว่า สัตบุรุษของ เรา กำลังเติบโตในด้านความเชื่ออย่างถึงที่สุด เพราะพวกเธอได้แสดงความพร้อมที่จะออกไป ประกาศพระวรสาร ในแนวหน้าของพระศาสนจักร
เราได้เริ่มกลุ่ม “ครอบครัวธรรมทูต” อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น ซึ่งมีการจัดตั้งกลุ่ม อย่างเป็นทางการ เริ่มมีกองทุนสนับสนุนการประกาศพระวรสารแม้จะเป็นกลุ่มไม่ใหญ่นัก แต่เป็น การร่วมมือที่ออกมาจากสัตบุรุษ ที่เป็นแนวหลังที่จะสนับสนุนอย่างจริงจัง ทั้งคำภาวนา กำลังกาย กำลังทรัพย์ เป็นกลุ่มที่จะอุทิศตนเพื่องานธรรมทูตในแบบที่พวกเขาทำได้ในแบบของเขา
เรามีเยาวชนและผู้ใหญ่ อีกบางคน ที่กำลังจะได้เข้าไปเรียนในบ้านเณรใหญ่ ทั้งชั้นปรัชญา และเทววิทยา โดยยอมรับการหล่อหลอมความคิดว่า พระเยซูกำลังเรียกพวกเขาให้ออกไปทั่วโลก เพื่อเป็นทูตของพระองค์ หลายคนได้ผ่านประสบการณ์ และงานในพื้นที่ต่างๆ ที่พวกเขาจะพบว่า มันไม่ใช่อย่างที่เขาหวังและเห็น มันไม่ได้สวยหรูหรือสะดวกสบายอย่างที่เขาคิด แต่บางคน ก็พร้อม จะกลับใจ และมารับใช้พระองค์เหมือนนักบุญเปาโล องค์อุปถัมภ์ของคณะฯ
เรากำลังมีเยาวชนบางคน ที่กำลังแสวงหาและเรียนรู้พระประสงค์ของพระเจ้า เพื่อที่จะเข้า มาทำงานนี้ ในฐานะธรรมทูต พวกเขาไม่ใช่คนดีพร้อม แต่กำลังเรียนรู้ที่จะยอมรับความเป็นจริงของ ตัวเองที่มีความบกพร่องไม่สมบูรณ์ ทั้งฐานะ ครอบครัว ภาษา สติปัญญา แต่พวกเขากำลัง ยอมรับ การท้าทายจากพระเยซูว่า พวกเขาเหมาะไหมที่จะเดินตามทางพระองค์ในทางนี้ แม้จะต้องใช้เวลา อีกนานหลายปีในการฝึกฝนตนเองก็ตาม
ในปีนี้ สมาชิกพวกเราบางคนก็กำลังเติบโตมากขึ้น กับการเรียนรู้การทำงานด้วยความเป็น หนึ่งเดียวกัน แม้จะมีความหลายหลาก แต่สิ่งที่เชื่อมเราไว้ด้วยกันคือ การติดตามพระเยซูด้วยความ เชื่อ และรับใช้พระองค์ด้วยงานธรรมทูต เรากำลังเติบโตมากขึ้นในการขัดแย้ง เพราะหลังจากนั้น เราได้เรียนรู้ตัวตนของแต่ละคนมากขึ้น และยอมรับกันและกันมากขึ้น ซึ่งไม่ง่ายเลย แต่บทเทศน์ ของพระคุณเจ้าชูศักดิ์ ที่นำการเข้าเงียบประจำปีในปีนี้ ได้ช่วยรำลึกธรรมชาติของเรา
ขอบคุณพระเจ้าที่ให้กำลังคืนมาให้กับ คพ.วีรชัย ศรีประมงค์ ที่พักรักษาสุขภาพหนึ่งปี ในช่วงฉลอง 25 ปีของชีวิตสงฆ์พอดี และตอนนี้ได้กลับเขาไปทำงานต่อในกัมพูชาแล้ว ขอบคุณ พระองค์ที่ให้คพ.รังสรรค์ ภานุรักษ์ ได้ฟื้นฟู สภาพทั้งกายใจ และกำลังเตรียมตัวกลับไป ทำงานที่ลาวอีกครั้งหนึ่งเร็วๆ นี้ ขอบคุณพระเจ้า ที่ให้ ซ.เปลาจี สายสอน และซ.เซเวียร์ ทิพากร สองสมาชิกร่วมงานรุ่นแรกๆ ของคณะธรรมทูตในกัมพูชา ที่ได้ร่วมงานมาจนครบ 25 ปีแล้ว แม้ตอนนี้ หลายคณะจะมีสมาชิกลดลง แต่ก็เสียสละสมาชิกบางคนมาทำงานธรรมทูต นี่เป็นชีวิต ที่จะพวกเขาได้หว่านออกไป และจะเกิดผลแน่นอนในอนาคตสำหรับคณะนักบวชนั้น
พี่น้องที่รักครับ คณะธรรมทูตไทย ไม่มีอะไรที่ต้องสะสมเพื่อตัวเอง แต่จะใช้ทุกทรัพยากร ที่มีเพื่อการประกาศพระวรสาร เราไม่มีโรงเรียน แต่เราจะไปสร้างโรงเรียนให้กับพระศาสนจักรท้อง ถิ่นที่เราไปอยู่ เรายังไม่มีบ้านศูนย์กลาง หรือหมู่คณะ เพราะส่วนใหญ่เราอยู่ในวัดต่างๆ เพื่อรับใช้ พระศาสนจักรท้องถิ่นนั้นๆ เพราะเราเชื่อว่า เมื่อถึงเวลา พระเจ้าจะเตรียมให้พวกเราเอง ในสิ่งที่ จำเป็นและสำคัญ เพื่อจุดประสงค์เดียว คือ เพื่อสนับสนุนการประกาศพระสาร
ขอเชิญชวนเยาวชน พี่น้องนักบวช และพี่น้องฆราวาส ได้รู้ว่า ชีวิตเราจะมีคุณค่าและ ความหมายมากขึ้น เมื่อเราได้แบ่งปันชีวิตเรา ทั้งสิ่งที่เรามีและที่เราเป็น ให้กับผู้อื่นในงานประกาศ พระวรสาร… ขอเชิญพี่น้องมาร่วมงานกับเรา ตามกระแสเรียกของพี่น้อง ติดต่อคณะธรรมทูตได้ทุก เวลาสำหรับการหาประสบการณ์ใหม่ๆ ในชีวิตฝ่ายจิตแบบนี้…