ก้าวไปด้วยกัน เพื่อการประกาศข่าวดี
ด้วยจิตสำนึกถึงเรื่องนี้ในช่วงปีแห่งซีน๊อด(2021-2023) ทำให้เราตระหนักว่า การทำงานธรรมทูต ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวเท่านั้น แต่เป็นจิตสำนึกและกระทำไปด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นทั้งในระดับพระศาสนจักรสากล และในพระศาสนจักรท้องถิ่น เราต้องช่วยกันสนับสนุน เป็นแรงบันดาลใจ ให้กำลังใจกันและกัน ทั้งฝ่ายกาย คือ ปัจจัยภายนอกต่างๆ เช่น เงินทุน เครื่องไม้เครื่องมือ และปัจจัยด้านภายใน เช่นการส่งเสริมจิตตารมย์ จิตสำนึก รวมทั้งทักษะในการทำงานร่วมและงานด้านการบริหาร เช่น การสื่อสารในองค์กร, การจัดการบุคลากร, การบริหารทรัพยากรต่างๆ ฯลฯ
เมื่อเราอยู่ในสังฆมณฑลของเรา เราก็มักจะซึมซับรูปแบบชีวิต การประกาศพระวรสารแบบไทยๆ แต่เมื่อเราได้ติดต่อมากขึ้น กับพี่น้องพระศาสนจักรในที่ต่างๆ โดยเฉพาะจากส่วนกลางคือสันตะสำนัก เราจะเห็นว่า เราต้องหาวิธีการมากขึ้น, กระตือรือร้นมากขึ้น, แบ่งปันกันและร่วมมือกันมากขึ้น
ผมได้มีโอกาสเข้าร่วมประชุมใหญ่ประจำปี ที่เมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส (16-23 พ.ค. 2022) ของสมณองค์กรสนับสนุนงานแพร่ธรรม(Pontifical Mission Society) ซึ่งไม่ได้จัดมาสองปีแล้วเพราะติดปัญหาโควิด อย่างที่เราได้ทราบแล้วว่า สมาชิกคณะธรรมทูตไทย ได้เข้าร่วมด้วยคือ คพ.ไตรรงค์ มุลตรี ซึ่งเป็นตัวแทน ผู้อำนวยการของสมณองค์กรฯ จากประเทศไทย ส่วนผมเป็นตัวแทนของประเทศลาวและกัมพูชา แม้จะมีสมาชิกร้อยกว่าประเทศ แต่เข้าร่วมจริง ประมาณ 80 กว่าประเทศ อย่างตัวแทนจากพม่า ประเทศเพื่อนบ้านเรา ก็ไม่สามารเข้าร่วมประชุมได้ เพราะความไม่สงบในประเทศ
ผมได้ตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ของพวกเรา ซึ่งเป็นผู้ประสานงานทุกด้านที่เกี่ยวกับการประกาศพระวรสาร ระหว่างพระศาสนจักรท้องถิ่นและสันตะสำนักซึ่งเป็นตัวแทนของพระศาสนจักรสากล โดยเฉพาะผ่านทางสมณองค์กรทั้ง 4 แห่งคือ
1. สมณองค์กรเผยแพร่ความเชื่อ(Pontifical Society for the Propagandation of the Faith)
ส่งเสริมงานธรรมทูตในท้องที่ที่ขาดแคลนด้านปัจจัย งานก่อสร้างวัด ศูนย์อภิบาล ปัจจัยภายนอกต่างๆ ที่จำเป็น ฯลฯ
2. สมณองค์กรยุวธรรมทูต (Pontifical Society of the Holy Chidhood)
ส่งเสริมการอบรมจิตตารมย์ธรรมทูต ให้กับเด็กๆ ได้รู้จักแบ่งปันความเชื่อ ผ่านทางกิจกรรมต่างๆ เช่น การภาวนา การบริจาค การเยี่ยมเยี่ยน ฯลฯ
3. สมณองค์กรนักบุญเปโตรอัครสาวก(Pontifical Society of St.Peter Apostle)
ส่งเสริมบ้านอบรมต่างๆ โดยเฉพาะบ้านเณรทั่วโลก การศึกษาต่อของพระสงฆ์ทั่วโลก การส่งเสริมกระแสเรียก ทั้งบ้านเณรเล็ก กลางและใหญ่
4. สมณองค์กรสหพันธ์ธรรมทูตของพระสงฆ์และนักบวช (Pontifical Missionary Union)
ส่งเสริมชีวิตฝ่ายจิตและจิตตารมย์ด้านงานธรรมทูต ผ่านทางการจัดอบรม เอกสารความรู้ ความเข้าใจต่างๆ และสร้างความกระตือรือร้นด้านการประกาศพระวรสาร
ผ่านทางโครงการ และการส่งเสริมกิจกรรมต่างๆ เพื่องานธรรมทูตเหล่านี้ เหล่าผู้เป็นตัวเชื่อมประสานงาน ก็คือพวกเรา ที่เป็นผู้อำนวยการแต่ละประเทศ
ผมรู้สึกประทับใจและอบอุ่นใจในความเป็นกันเอง ของผู้ทำงานในส่วนของสันตะสำนัก ซึ่งใช้ความสามารถต่างๆ อย่างเต็มที่ ในการติดต่อประสาน อำนวยความสะดวกต่างๆ เพราะเราใช้กันถึง 4 ภาษาหลักในการประชุม ทั้งการสื่อสารแบ่งปัน ที่ต้องอดทนต่อคำถาม หรือข้อข้องใจต่างๆ แต่พวกท่านก็ให้บริการอย่างเต็มที่ แม้พวกเราจะมาจากประเทศเล็กๆ ที่มักจะเป็นผู้รับมากกว่าการเป็นผู้ให้ ก็พวกท่านยังให้เกียรติ และเอาใจใส่พวกเรา สำหรับเพื่อนต่างชาติ เราก็ได้เห็นจิตตารมย์เดียวกัน ที่ทำให้เราพูดคุยกันได้ในเรื่องเดียวกัน แม้ภาษา อายุ ลักษณะนิสัย พื้นเพประเพณี ของพวกเราต่างกัน แต่พวกเราก็เป็นหนึ่งเดียวกัน ดังที่ พระเยซูเจ้าได้ตรัสว่า “เพื่อเขาจะได้เป็นหนึ่งเดียวกันโดยสมบูรณ์ โลกจะได้รู้ว่า พระองค์ทรงส่งข้าพเจ้ามา…” (ยน. 17:23)
การประชุมปีนี้พิเศษแสนพิเศษตรงที่ว่า ปกติเราจะประชุมกันที่โรม แต่เนื่องจากเป็นโอกาส ครบรอบ 200 ปี ของสมณองค์กรเผยแพร่ความเชื่อ(1822) ซึ่ง เปาลีน จาริโค เป็นผู้ริเริ่มต่อตั้ง, ครบรอบ 150 ปีวันเกิดของ บุญราศี เปาโล มานนา(1872) และครบรอบ 100 ปีของการประกาศ 3 องค์การแรก(POPF, POSI, POSA)เป็นสมณองค์การ(Pontifical)
จุดน่าสนใจที่สุดในงาน คือ การไปร่วมพิธีสถาปนา เปาลีน มารีย์ จาริโค(Pauline Maria) เป็นบุญราศี โดยพระคาร์ดินัล ตาเกล สมณมนตรีกระทรวงประกาศพระวรสารสู่ปวงชน ในวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ค. 2022 ตอนเช้าวันนั้น เราได้รับการแบ่งปันของพยานที่ได้รับการรักษาให้หาย จากการภาวนาวอนขอท่าน นักบุญ คือ การหายจากสมองล้มเหลวหลังจากอุบัติเหตุทางรถ ของ Maryline ในปี 2012 ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ ที่แทบจะหมดหวังแล้ว ได้ภาวนาวอนขอท่านจาริโค ความประทับใจของผม นอกจากท่านบุญราศีจะรักษาเด็กคนนี้ให้หายแล้ว ยังทำให้บิดา ซึ่งไม่ได้รับศีลล้างบาปก่อนหน้านั้น ได้ตัดสินใจ เข้าเป็นคริสตชนอีกด้วย…
ผมกลับมาพร้อมพันธกิจอีกหลายอย่างที่ต้องทำ แม้งานจะล้นมืออยู่แล้ว แต่ในเมื่อต้องรับหน้าที่ใหม่ นี้อีก (14/10/2020) ก็ต้องทำอย่างเต็มที่ พร้อมๆ กับการเรียนรู้งานไป ผิดบ้างพลาดบ้าง ก็นำไปเป็นบทเรียน เพื่อพัฒนาตนเองต่อไป เพื่อจะได้เป็นตัวประสานให้พระศาสนจักร ทั้งท้องถิ่นและสากล ก้าวไปด้วยกัน
ในส่วนของคณะธรรมทูตไทย ตอนนี้ก็อยู่ในช่วงเตรียมประชุมสมัชชาสามัญ(General Chapter) ซึ่งเหลืออีกประมาณครึ่งปี คือในเดือนมกราคม 2023 ที่จะถึงนี้ คณะธรรมทูตไทยเราเพิ่งได้สมาชิกพระสงฆ์องค์ ใหม่(องค์ที่ 21) คือ คพ. อันโตนีโอ รติ พรหมเด่น สังกัดสังฆมณฑลจันทบุรี คุณพ่อได้รับมอบหมาย ให้เตรียมตัวไปประเทศไต้หวันในอนาคตนี้ และเราก็กำลังจะมีสังฆานุกรใหม่อีกเร็วๆ นี้ แม้กระแสเรียกเณรของเราจะลดลง แต่เรากลับมีผู้สนใจจากชาติอื่นเข้ามาติดต่อเพิ่มมากขึ้น ขอฝากคณะธรรมทูตไทย ไว้ในการสนับสนุนของพี่น้องต่อไปครับ ก้าวไปด้วยกันตามบทบาทและกระแสเรียกของเราแต่ละคน
สำหรับงานก่อสร้างพระวิหารของพระเจ้าในกรุงพนมเปญ ยังเปิดรับทำบุญอยู่นะครับ ตอนนี้งานได้คืบหน้าไปถึงชั้นระดับพื้นดินแล้วครับ กำลังขึ้นเสาเพื่อไปต่อเป็นชั้นของวัดต่อไป ขอบพระคุณพี่น้อง ที่ได้ร่วมทำบุญก่อนหน้านี้ ผ่านท่าน น.ยอแซฟ ขอพระเป็นเจ้าประทานพระพร ให้พี่น้องเสมอ