การบวชพระสงฆ์ใหม่ในเขมร
ปี 2014 นับเป็นปีแห่งความยินดีอีกปีหนึ่ง สำหรับพระศาสนจักรในกัมพูชา ที่เมื่อปลายเดือน ตุลาคม เราได้ทำการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ระหว่างสันตะสำนักและประเทศกัมพูชาครบ 20 ปี ต่อมาอีกเดือน ก็ได้บวชพระสงฆ์พื้นเมืองใหม่ 2 องค์ คือ ของมิสซังกำปงจาม เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน องค์หนึ่ง และอีกองค์หนึ่ง ของมิสซังบัดดำบอง เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งทั้งสองเขตเป็น เขตการปกครองแบบมิสซัง ที่มีผู้แทนสันตะสำนักเป็นผู้ดูแล เรียกว่า Apostolic Prefect ดังนั้น ลักษณะการบวชพระสงฆ์ใหม่ของทั้งสองเขตนี้ จะเป็นแบบที่เราไม่เคยเห็นที่เมืองไทย เพราะผู้แทน สันตะสำนักนี้ ไม่มีอำนาจบวชพระสงฆ์ได้ ดังนี้ จึงต้องให้พระสังฆราชจากมิสซังพนมเปญเป็นผู้บวชให้ {besps}2014/rosordination{/besps}
พระสงฆ์ใหม่ทั้งสองท่าน ได้รับการอบรมในบ้านเณรใหญ่ น.ยอห์นมารี เวียนเนย์ โดยเริ่มเรียน ปรัชญาจากมหาวิทยาลัยภูมินทร์ พนมเปญ ในปี 2006 และเรียนเทววิทยาในบ้านเณรต่ออีก ได้รับการบวชเป็นสังฆานุกรพร้อมกัน เมื่อปลายปี 2013
{besps}2014/odinationofkompongcham{/besps}
พระสงฆ์ใหม่ของมิสซังกำปงจาม ชื่อคุณพ่อ ยอห์นมารีย์ เวียนเนย์ พาน โบเรย มาจาก หมู่บ้าน กดอนเลอ ริมฝั่งแม่น้ำโขงในจังหวัดกำปงจาม หมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านคาทอลิกเก่าแก่ และมี พระสงฆ์มรณสักขีในสมัยเขมรแดงที่นี่ด้วย การบวชของพ่อโบเรย ถือได้ว่าเป็นครั้งประวัติศาสตร์ ของมิสซังนี้ เพราะพระสงฆ์เขมรองค์แรกของมิสซังนี้คือ พ่อโปล ลาย ได้รับการบวชพร้อมกับเพื่อนๆ ที่พนมเปญ ในปี 2001 ซึ่งก็หมายถึง 13 ปีมาแล้ว นับแต่พระสงฆ์เขมรองค์แรกของมิสซังนี้ได้บวช ซึ่งสมัยนั้นพิธีบวชทำกันที่กรุงพนมเปญ แต่ครั้งนี้ ถือว่าเป็นองค์แรก ที่บวชที่มิสซังกำปงจามนี้
ครอบครัวถือว่ามีส่วนสำคัญในการสนับสนุนกระแสเรียกคุณพ่อโบเรย แม้ว่าจะมีอุปสรรคในช่วง แรกของกระแสเรียก เพราะบิดาของคุณพ่อไม่ได้เป็นคาทอลิก หลังจากได้เรียนรู้ เรียนคำสอน จนในที่สุด ได้เข้าใจถึงการตัดสินใจของบุตรชายคนโตนี้ ก็ได้ถวายคุณพ่อแด่พระเจ้า และตัวเองก็ตัดสินใจ รับศีลล้างบาปเป็นคาทอลิกด้วย อีกอุปสรรคอีกอย่างคือ ความยากจน เพราะในสมัยก่อน การที่จะให้ ลูกๆ ได้เรียนทุกคนนับว่าลำบากมาก
หลังจากบวชแล้ว พระคุณเจ้าแอนโทนี ได้มอบหมายให้ช่วยคุณพ่อ เจอร์ราล(MEP) ดูแลกลุ่ม คริสตชนในเขตรอบๆ ตัว จังหวัดกำปงจาม ซึ่งมีหลายแห่งมาก
พระสงฆ์ใหม่ของมิสซังบัดดำบอง ชื่อ คุณพ่อยอแซฟ มวง รัวะ บ้านเกิดอยู่ที่จังหวัดกำปงทม กลางประเทศกัมพูชาพอดี ก่อนเริ่มต้นกระแสเรียก ได้รับการศึกษาอาชีพวะศึกษาจาก โรงเรียน ดอนบอสโก พนมเปญ เป็นช่วงเวลาสำคัญ ที่ได้ตัดสินใจมาเป็นเณร เพราะเป็นช่วงที่กำลังเรียนคำสอน และไตร่ตรองกระแสเรียกอย่างมาก เนื่องจากบิดาเสียไปแล้ว และเป็นบุตรชายคนโต ที่มารดาหวังพึ่งพา อย่างมาก นอกจากนี้ยังมีน้องๆ อีก 3 คน แต่ที่สุดเมื่อความตั้งใจไม่เปลี่ยนแปลง มารดาของคุณพ่อ ก็ยก ถวายคุณพ่อให้พระเป็นเจ้า
พ่อรัวะ เป็นพระสงฆ์องค์ที่สองของมิสซังบัดดำบอง หลังจากพระสงฆ์องค์แรก คือ พ่อสุพอล ได้บวชเมื่อปี 1995 นับเป็นการรอคอยที่ยาวนาน เกือบ 20 ปีทีเดียว กว่าจะได้องค์ใหม่นี้ และเป็น สิ่งที่ท้าทายมากยิ่งขึ้นสำหรับมิสซังนี้ เพราะแม้จะมีเณรใหญ่ถึงแปดคนในปีการศึกษานี้ แต่ไม่มีสักคน เดียว มาจากมิสซังบัดดำบอง
คุณพ่อได้รับการมอบหมาย ให้ดูแลกลุ่มคริสตชนรอบตัวจังหวัดบัดดำบอง และหน่วยงานระดับ ชาติคือ เรื่องกระแสเรียกและเยาวชน หลังจากปีใหม่ไป ก็จะดูแลกลุ่มคริสตชนใหม่อีกที่หนึ่ง
การบวชของพระสงฆ์ใหม่ทั้งสององค์นี้ สร้างความหวังให้กับพระศาสนจักรท้องถิ่นอย่างมาก เพราะทั้งสององค์เป็นพระสงฆ์ที่มีเชื้อสายทางกัมพูชามาก ที่กล่าวเช่นนี้ ก็เพราะว่า พระศาสนจักรที่นี่ ยังมีหน้าตาของชาวเวียดนามและชาวต่างชาติอย่างมาก เราจึงพยายามให้พระศาสนจักรเป็นของกัมพูชา มากที่สุดเท่านี้จะทำได้ โดยไม่ทิ้งคาทอลิกเวียดนาม ที่มากถึง 70-80เปอร์เซนต์ ของจำนวนคาทอลิกที่นี่
แม้การบวชจะต่างวาระ ต่างสถานที่กัน แต่เป็นเครื่องหมายของความหวังสำหรับพระศาสนจักร ที่กำลังอ่อนวัยในประเทศนี้ สิ่งที่บรรดาธรรมทูตได้หว่านไปนั้น เริ่มจะเกิดดอกออกผลบ้างแล้ว คือการมี กระแสเรียกของพระศาสนจักรท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม เรายังต้องเผชิญกับสิ่งท้าทายต่างๆมากมาย โดยเฉพาะขาดศาสนบริกร เช่น ครูคำสอน นักบวชและพระสงฆ์ ที่จะอุทิศตนไม่ใช่แค่เพื่อเพียงรักษา ความเชื่อที่มีอยู่แล้วเท่านั้น แต่เพื่อประกาศพระวรสารแก่คนที่ยังไม่รู้จักพระเป็นเจ้าอีกมากมายด้วย