บทความของมิชชั่น

สังฆภาพแห่งความเป็นหนึ่ง

ภาพที่น่าชื่นชมยินดีอีกภาพหนึ่งในพระศาสนจักรที่กัมพูชา คือ “วันเสกน้ำมัน” ปีนี้ เป็นอีกปีที่เรารอคอย นั่นก็เป็นเพราะว่า ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เราไม่ได้ได้เสกน้ำมันกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตากันเลย เพราะสถานการณ์โควิด เหตุที่วันเสกน้ำมันเป็นวันที่ทำให้เรามองเห็นความเป็นหนึ่ง เดียวกันของพระศาสนจักรได้ ก็เพราะว่า เป็นวันที่พระสงฆ์ นักบวชและพี่น้องสัตบุรุษ มาร่วมกัน โดยเฉพาะ บรรดาพระสงฆ์ ที่ปีหนึ่งจะได้มีโอกาสรื้อฟื้นคำมั่นสัญญาที่ตนได้เคยให้ไว้ในวันบวช ต่อหน้าบิชอป และพี่น้องสัตบุรุษ   ลักษณะที่พิเศษ สำหรับการปกครองที่กัมพูชา หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า เรามีบิชอปที่มีอำนาจเต็ม อยู่เพียงท่านเดียวทั้งประเทศ คือ พระคุณเจ้า โอลีเวียร์ ชมิตเฮอสเลย์ จากคณะมิสซังต่างประเทศกรุงปารีส(MEP) พระคุณเจ้าผู้เดียวที่สามารถบวชพระสงฆ์ได้ มีฐานะในทางกฏหมายที่เรียกว่า “ผู้แทนพระสันตะสำนัก” (Apostolic vicar, Can 371§1) ของเขตมิสซังพนมเปญ และอีกสองเขตดูแลปกครองโดยผู้ดูแลที่เรียกว่า “หัวหน้าสันตะสำนัก” (Apostolic Prefect) ในเขตมิสซังพระตะบอง คือ พระคุณเจ้ากีเก้ และในเขตมิสซังกำปงจาม แต่ทุกวันนี้ เรามี “ผู้ดูแลจากสันตะสำนัก” (Apostolic Administrator) มาช่วยดูแลชั่วคราวก่อน ในระหว่างรอหัวหน้าสันตะสำนักคนใหม่ คือ คุณพ่อบรูโน            

ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา การประกาศพระวรสาร ยังทำควบคู่ไปกับงานอภิบาล ในสภาพของคริสตชน ที่หลากหลาย พวกเราอยู่ด้วยการเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากันและกัน ร่วมทำงานไปด้วยกัน โดยมีผู้ใหญ่ของ พระศาสนจักรท้องถิ่นเป็นผู้ดูแลและผู้นำ ในปี 2022 นี้ ในเรื่องกระแสเรียก ก็เป็นอีกปีหนึ่ง ที่ความพยายาม สร้างกระแสเรียกท้องถิ่นได้บังเกิดผล คือ ในปีวันฉลองน.เปโตรและน.เปาโลในปีนี้ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เราก็จะมีพระสงฆ์ ที่มาจากชนเผ่าปโนงจากเขต จ. มณดลคีรี มิสซังกำปงจาม เป็นคนแรก และ ในเดือนกรกฎาคมปีนี้ เราก็อาจจะได้ สังฆานุกรใหม่อีก 3 ท่าน ซึ่งเป็นของมิสซังพนมเปญทั้งหมด แต่หลังจากนั้น บ้านเณรใหญ่ในกัมพูชาก็จะปิดลงระยะหนึ่ง เนื่องจากไม่มีเณรในชั้นเทววิทยาเหลือเลยในกัมพูชา

สามเณรใหญ่ของกัมพูชาหลังจากปีนี้ไป จะเหลือเรียนอยู่ที่บ้านเณรใหญ่แสงธรรมของเรา พวกเขาได้เรียนรู้ ภาษาไทยและใช้ภาษาอังกฤษได้ดีพอสมควร ช่วงนี้ปิดเทอมใหญ่ พวกเขาได้มีโอกาสมาเยี่ยมบ้าน หลังจาก ไม่ได้กลับมาเยี่ยมบ้านเลย ตั้งแต่ไปเรียนภาษา เป็นเวลา 3 ปี และพวกเขาได้มีโอกาสได้ เข้าร่วม วันเสกน้ำมัน ได้พบบรรดาพระสงฆ์ในโอกาสนี้ด้วย แม้การเสกน้ำมัน โดยปกติจะทำกันเช้าวันพฤหัสบดีศักดิ์สิทธิ์ เพราะเป็นวันระลึกถึงพระสังฆภาพ แต่ตามท้องถิ่น จะปรับไปตามความเหมาะสม พิธีเสกน้ำมันและการรื้อฟื้นคำปฏิญาณของบรรดาบาดหลวงที่กัมพูชา เราจะทำกันวันพุธ ก่อนสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์หนึ่งสัปดาห์ ทั้งนี้เพราะบางคนต้องเดินทางไกล กลับไปเตรียมปัสกากันอีก ในวันนั้น เรามักจะมีประชุมกันก่อน โดยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ ซึ่งปีนี้ให้แก่มิสซังกำปงจาม และเนื่องจากปีนี้ คพ.สาธ และ คพ.โบเรย สองพระสงฆ์พื้นเมือง ได้มีโอกาสไปร่วมงานสัมมนาพระสงฆ์ที่โรม ก็ได้นำสารของสมเด็จพระสันตะปาปา มาแบ่งปันให้กับพวกเรา โดยมีหัวข้อการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ 4 ด้าน คือ ความสัมพันธ์กับพระเจ้า กับบิชอป กับเพื่อนพี่น้องสงฆ์ และกับสัตบุรุษ ซึ่งเป็นเรื่องพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับบาดหลวงโดยตรง นับว่าเป็นข้อเตือนใจที่ดี ที่พระสันตะปาปาได้ตรัสเตือน

ปัจจุบันปี 2022 นี้ พระสงฆ์ที่ประเทศกัมพูชา ทั้งประเทศมีประมาณ 80 กว่าองค์ ส่วนใหญ่เป็นธรรมทูตจากประเทศต่างๆ กว่า 20 ประเทศ จากทั้งคณะธรรมทูตเองโดยตรง(Apostolic life) และที่เป็นคณะนักบวชชาย(Religious) ซึ่งแบ่งการทำงานเป็นสองกลุ่มหลักใหญ่ๆ ได้แก่ งานประกาศพระวรสารโดยตรงในเขตวัด และ งานองค์การทางศาสนา และนอกจากนั้น เป็นพระสงฆ์พื้นเมือง ซึ่งทั้งประเทศ เรามีทั้งหมด 9 องค์ อยู่ในทั้งสามมิสซังเท่าๆ กันเรามีบ้านเณรใหญ่ หนึ่งแห่งคือ บ้านเณรนักบุญยอห์น มารี เวียนเนย์ ที่พนมเปญ เรามี สังฆานุกร 1 องค์ สามเณรใหญ่ 6 ท่าน และ เตรียมเข้าบ้านเณรใหญ่อีกหนึ่งท่าน ที่กัมพูชาเรายังไม่มีบ้านเณรเล็ก เรามีแต่การอบรมกระแสเรียกผู้สนใจทุก 2 เดือน สำหรับเยาวชนชาย คือ “กลุ่มเอมมานูเอล” และสำหรับกลุ่มเยาวชนหญิง คือ “กลุ่มซามูแอล” มีค่ายและกิจกรรมด้านกระแสเรียกในโอกาสพิเศษบ้าง แต่พระคุณเจ้าในทุกเขต กำลังพยายามผลักดัน ให้มีผู้สมัครเป็นเณร ได้อยู่กับบรรดาพระสงฆ์หัวหน้าเขต ตามวัดต่างๆ ซึ่งบางวัดเขตทำ แต่ก็หยุดไป เพราะไม่มีเด็ก บางเขตก็มีแต่คริสตังค์ใหม่ ยังไม่เข้าใจเรื่องกระแสเรียกนัก ส่วนวัดผมมีเยาวชนมาอยู่ด้วย 2 คน แต่เป็นเยาวชนชาย นอกจากนั้น ก็กำลังเตรียมเด็กช่วยมิสซา

ในส่วนของนักบวช บางคณะก็มีสามเณรชาวกัมพูชาบ้างแล้ว ส่วนใหญ่เป็นคณะที่ทำงานมานาน ในกัมพูชา เช่น คณะซาเลเซียน ทั้งชายและหญิง, คณะเยสุอิต ส่วนคณะที่เป็นผู้หญิง ที่มีผู้ถวายตัวแล้ว เช่น คณะพระญาณเอื้ออาทร, คณะผู้รับใช้ดวงหทัยนิรมลพระแม่มารีย์ และ คณะซิสเตอร์พื้นเมือง ซึ่งคณะรักกางเขนแห่งอุบลฯ ผู้ร่วมงานคณะธรรมทูตไทยเรา ได้ฝากผลงานไว้ คือ “คณะรักกางเขนแห่งกัมพูชา”

ครอบครัวในพระศาสนจักรแห่งนี้ เป็นครอบครัวที่หลายหลาก แต่พวกเรามีเป้าหมายเดียวกัน คือ เพื่อประกาศพระอาณาจักรของพระเจ้า ประกาศข่าวดีแห่งการกลับคืนพระชนมชีพของพระองค์ ไม่ว่าสถานการณ์โลก หรือสังคมจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรก็ตาม เราก็ระลึกถึงพระวาจาเสมอที่ว่า “มิใช่ท่านทั้งหลายที่ได้เลือกเรา แต่เราได้เลือกท่าน มอบภารกิจให้ท่านไปทำจนเกิดผล และผลของท่านจะคงอยู่…” (ยน.15:16)

สำหรับเรื่องการก่อสร้างวัดใหญ่ที่กรุงพนมเปญ บัดนี้ การเทพื้นชั้นใต้ดิน ได้ทำเรียบร้อยแล้ว เรากำลังทำกำแพงล้อมรอบ เพื่อกั้นดิน เป็นพื้นที่สำหรับจอดรถ เราได้ขึ้นเสาเตรียมรองรับชั้นระดับผิวดิน หลังปิดยาวสงกรานต์ ก็ได้ทำเดินการต่อ… ส่วนผมยังขอเปิดรับบริจาคจากพี่น้องอยู่นะครับ ขอพระอวยพรพี่น้อง

admin@admin.com

About Author

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

บทความของมิชชั่น

บทความของมิสชั่น ฉบับที่ 16

การก่อตั้งกลุ่มคริสตชนที่เปรกตาแตน           งานธรรมทูต คืองานประกาศพระอาณาจักรของพระเป็นเจ้าบนแผ่นดินนี้ พระอาณาจักรของ พระเจ้า เราเห็นไม่ได้ แต่ถ้าที่ใดมีกลุ่มคริสตชน นั่นก็เป็นเครื่องหมายที่ทำให้เรามีความหวังที่จะได้เห็น พระอาณาจักรของพระเจ้าตรงนั้น   พระศาสนจักรคือ เครื่องหมายศักดิ์สิทธิ์ (ศีลศักดิ์สิทธิ์) ของพระอาณาจักรพระเจ้า           ในเขตวัดที่ผมดูแลอยู่นั้น กำลังมีกลุ่มคริสตชนใหม่เกิดขึ้นสองกลุ่ม กลุ่มที่จะแบ่งปันให้ผู้อ่านฉบับนี้ คือ กลุ่มคริสตชนที่เปรกตาแตน
บทความของมิชชั่น

บทความของมิสชั่น ฉบับที่ 1

ความเชื่อ ที่เป็นชีวิต ของ น.เลโอปอลโด (แห่งปาดัว)        สวัสดีครับ ผู้อ่านที่รักทุกท่าน เร่ิมต้นปี ก็เป็นเวลาที่ดี ที่เราจะเร่ิมต้นรื้อฟ้ืนถึงความเชื่อ เของเรากันอีกครั้งนะครับ ซึ่งทุกๆกิจกรรมของเรา สามารถโยงเข้ามา เกี่ยวข้องกับความเชื่อ ได้ทั้งส้ิน ผ่านทางการดำเนินชีวิตตามกระแสเรียกเราแต่ละคน