พระศาสนจักรในประเทศลาว เป็นพระศาสนจักรเล็กๆแห่งหนึ่งในโลก ที่มีความเป็นพี่เป็นน้องและมีวัฒนธรรมใกล้เคียงกับไทยมากที่สุด พี่น้องลาวเป็นคนเรียบง่าย พระศาสนจักรในประเทศลาวแบ่งออกเป็น 4 มิสซังอยู่ในระดับ Apostolic Vicariate คือยังไม่ได้ขึ้นเป็นศาสนมณฑล(สังฆมณฑล) แบบบ้านเรา คือ มิสซังหลวงพระบาง เวียงจันทร์ ท่าแขก-สุวรรณเขต และ ปากเซ
ผมได้มีโอกาสทำหน้าที่ของผู้อำนวยการสมณองค์กรเพื่อการประกาศพระวรสาร ประจำประเทศลาวและกัมพูชา(PMS national director) อย่างค่อนข้างเป็นรูปธรรม ก็ในปีนี้แหละครับ หลังจากต้องติดเรื่องโควิด ไปเกือบสองปี การเยี่ยมเยียนประจำปี เป็นส่วนหนึ่งของหน้าที่พึ่งปฏิบัติ เพื่อรับทราบสถานการณ์ ความชื่นชมยินดี ความลำบากต่างๆ ของแต่ละมิสซังในเนื้องานการประกาศพระวรสาร โดยเฉพาะ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสมณองค์การทั้งสี่ ของสันตะสำนัก อันได้แต่ สมณองค์กรประกาศพระวรสาร, สมณองค์กรยุวธรรมทูต, สมณองค์กรนักบุญเปโตรอัครสาวก และสมณองค์กรเพื่อความเป็นหนึ่งเดียวของนักบวชและธรรมทูต ซึ่งแต่ละองค์กรอยู่ภายใต้กระทรวงประกาศพระวรสารสู่ปวงชน ของสันตะสำนัก ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนงานของพระศาสนจักรในประเทศแห่งนี้
การเดินทางไปประเทศลาว ผมใช้เวลาในระหว่างวันที่ 23-26 สิงหาคม 2022 ที่ผ่านมานี้
พันธกิจวันแรก(23/8/22) วันนี้ไปถึงเวียงจันทร์ตอนเย็น เพื่อพบพระคาร์ดินัลลิ่ง เสียดายที่ไปถึงตอนค่ำ เพราะเที่ยวบินจากพนมเปญมีแค่ 3 เที่ยวต่อสัปดาห์ พลาดกับการได้พบกับพี่น้องสงฆ์ที่ทำงานทั้งในเขตหลวงพระบางและเวียงจันทร์ ที่เพิ่งเสร็จการเข้าเงียบ แต่ก็ได้พบกับพระคุณเจ้าลิ่ง ซึ่งตอนนี้เป็นทั้งบิชอปของมิสซังเวียงจันทร์ และผู้รักษาการมิสซังหลวงพระบาง และคพ.บุญทา ซึ่งทำงานในพื้นที่หลวงพระบาง แทนพระคุณเจ้า เนื่องจากการขาดแคลนพระสงฆ์อย่างมาก พระคุณเจ้าได้ขอพระสงฆ์จากเขตมิสซังท่าแขกและปากเซ ไปช่วยที่นั่นด้วย กิจกรรมทางศาสนาที่นี่ไม่ค่อยสะดวกสักเท่าไหร่ แต่พวกเขาก็ยังรักษาความเชื่อไว้อย่างเข้มแข็ง ที่หลังวัดอาสนวิหาร มีพระธาตุของมรณสักขี คพ.มาริโอ บอร์ซากา(Mario Borzaga) เป็นเหมือนกำลังฝ่ายจิตที่สำคัญของพระศาสนจักร สิ่งที่น่าท้าทายคือ ความเชื่อของคนรุ่นใหม่ ที่ไม่ค่อยสนใจเรื่องศาสนา เราได้พูดคุยกัน และแนะนำความเป็นไปได้ด้านงานอภิบาลเยาวชน ครอบครัว และ กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการประกาศ พระวรสาร และผมยังภาวนาให้เป็นพิเศษ สำหรับกระแสเรียกพระสงฆ์นักบวชพื้นเมืองในอนาคต ก็ขอให้ มีข่าวดีไวๆ สำหรับการบวชสังฆานุกรที่กำลังฝึกงานในพื้นที่นี้นะครับ
วันที่สอง(23/8/22) คุณพ่อไซยา มาส่งคิวรถเมล์ที่ชานเมืองเวียงจันทร์ การเดินทางอันท้าทาย ก็ได้เริ่มต้นขึ้น ประเทศลาวมีถนนสายหลักๆ ไม่กี่สาย และบางช่วงก็ค่อนข้างเป็นหลุมเป็นบ่อ ผมเดินทางโดยรถเมล์ เพราะไม่มีคนเดินทางนัก รถเมล์จึงมีแต่ของเต็มไปหมด ทั้งท้ายรถ บนหลังคา ทางเดิน แม้แต่ตรงพื้นที่เรานั่ง…! บรรยากาศดี เพราะไม่ร้อนนัก มีฝนบางช่วง ชีวิตกลับเชื่องช้าอีกครั้งหนึ่ง ผมมาถึงตอนสองทุ่ม คพ.สุกพาพอน อธิการบ้านเณรใหญ่ เพื่อนเก่ามารับที่ท่ารถ ทักทายพระคุณเจ้านิดหน่อยก็พักผ่อน
วันที่สาม(24/8/22) มิสซาเช้าวันนี้เป็นมิสซาเปิดการอบรมครูคำสอนของมิสซังประจำปีสำหรับเขต ท่าแขก พระคุณเจ้าปรีดา เป็นประธาน จากนั้นในช่วงเช้า ได้แนะนำบทบาทการสนับสนุนงานแพร่ธรรมของ สมณองค์กรทั้งสี่ ให้พระคุณเจ้าและพระสงฆ์ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะทางบ้านเณร ได้มาร่วมประชุมกัน รวมทั้งเรื่องการเขียนโครงการ การทำรายงาน ต่างๆ พระคุณเจ้าให้ความเอาใจใส่ดีมาก และตั้งใจจะหาผู้รับผิดชอบในระดับมิสซังด้วย ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่ดี… จากนั้น ก็เดินทางทางลงสู่มิสซังปากเซ ทางใต้ และการเดินทางอันทรหด ก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง กับรถบัส 25 ที่นั่ง ที่ขนของเต็มรถเหมือนเดิม แต่เพิ่มขึ้นมากว่าเที่ยวแรกคือ จอดซ่อมอยู่ 5-6 ครั้ง จอดนานหน่อย ตรงเมืองเซโน ทางแยกเข้าสุวรรณเขต แต่เป้าหมายเราคือ ปากเซ จึงต้องเดินทางลงใต้ต่อไปเรื่อยๆ จนถึงประมาณสองทุ่มครึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชม. พ่อวิเซียร อธิการบ้านเณรกลาง ได้ให้บราเดอร์มารับที่คิวรถ เข้าพักที่บ้านเณรกลาง ติดกับวัดอาสนวิหารปากเซ
วันที่สี่(25/8/22) เช้าวันนี้มีสองนัด นัดแรกพบพระคุณเจ้าใหม่ถอดด้าม พระคุณเจ้าแอนดรู สุขสวัด นวนอาสา ซึ่งเพิ่งผ่านพิธีบวชเป็นบิชอปเมื่อวันที่ฉลองแม่พระได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ที่ผ่านมา(15/8/22) พระคุณเจ้าได้ให้เวลากับการรู้จักกับบทบาทของสมณองค์กรทั้งสี่ อันจะเป็นเครื่องมือที่สำคัญ ในการประกาศพระวรสารในเขตของพระคุณเจ้า คุณพ่อวิเซียร ได้ร่วมประชุมด้วย เพราะดูแลบ้านเณรกลาง ซึ่งปัจจุบันได้รับรองเป็นของระดับประเทศไปแล้ว…
หลังจากจากนั้น ก็ไปนัดที่สองคือ พูดคุยกับคุณพ่ออาวุโสของมิสซัง คือ คพ. อดุน ซึ่งเป็นอดีตอธิการบ้านเณรกลาง และพระสงฆ์ผู้ดูแลด้านกฎหมายพระศาสนจักรที่นี่ นอกจากคุณพ่อจะดูแลวัดแล้ว ก็ยังช่วย สอนเรียนวิชากฎหมายอยู่ ซึ่งส่วนนี้เป็นงานเพิ่มเติม ที่ผมจะได้มีโอกาสพูดคุยเรื่องงานด้านศาลแต่งงาน ของสภาบิชอปลาวและกัมพูชาด้วย จากนั้นก็เดินทางกลับข้ามชายแดน ลาวกัมพูชา เข้ามาทางเหนือของกัมพูชา ในเขตจังหวัดสตรึงแตรง ขอขอบคุณพระคุณเจ้าสุขสวัด ที่ให้รถมาส่งถึงชายแดน เพราะไม่มีรถประจำทางมาชายแดนเลย… ผมข้ามแดนมาพักรอรถที่วัดคาทอลิกสตรึงแตรง คืนนี้นอนบนรถ และมาถึงเช้ามืด ทันมิสซา ตอนหกโมงเช้าพอดี ที่พนมเปญ…
พันธกิจการเยี่ยมประจำปีของผมก็สำเร็จลงด้วยดี ได้สร้างความสัมพันธ์กับพระศาสนจักรท้องถิ่นแห่งนี้มากขึ้น ผมได้เห็นถึงข้อจำกัดต่างๆ และความยากลำบากในการทำกิจกรรม กำลังสำคัญคือ พระสงฆ์นักบวชในพื้นที่ ที่จะประกาศพระวรสารกับพี่น้องลาวต่อไป ขอขอบคุณพระคาร์ดินัล พระคุณเจ้าทุกท่านที่ ได้รับรองอย่างดีตามอัตภาพ ขอบคุณพระเจ้าที่ให้การเดินทางแม้จะลำบากแต่ผ่านไปโดยสวัสดิภาพ… ขอพระองค์ประทานพระพร พระศาสนจักรในประเทศลาวด้วยเทอญ… God bless Laos